ส.ว.คำนูณ บอกรับไม่ได้ ก้าวไกลผลักดันการแก้ มาตรา 112 ชี้กระทบความมั่นคงของรัฐ ลั่นมีเจตนานิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดี 112 แจงส.ว.มีไว้ทำไม

วันที่ 13 ก.ค.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 หลังจากเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ได้เปิดให้ส.ส.และส.ว.อภิปราย

เวลา 11.50 น. นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. อภิปรายว่า ตนรับไม่ได้ เพราะตามแนวทางของพรรคก้าวไกลนั้น ละเมิดต่อรัฐ ต่อความมั่นคง โดยเฉพาะการลดโทษอย่างมีเงื่อนไขต่อบุคคลที่ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 3 แสนบาท และมีบทยกเว้นโทษที่ถือว่าไม่ต้องรับโทษ รวมทั้งมีข้อเสนอเรื่องการแก้ไขกฎหมายของพรรคก้าวไกล ไม่จำกัดแค่สถานะที่องค์พระมหากษัตริย์จะละเมิดไม่ได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การใส่ร้าย การวิจารณ์ไม่เป็นธรรมบนโซเชียลมีเดีย

ทั้งนี้ สังคมใหม่ที่ท่านจะสร้างขึ้น คิดดีแล้วหรือไม่ เพราะจะกระทบต่อการเคารพของสถาบันที่บุคคลอื่นจะละเมิดมิได้ เสมือนเป็นการแก้รัฐธรรมนูญบทคุ้มครองในฐานะขององค์พระมหากษัตริย์ รวมถึงนิรโทษกรรมจำเลยและผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ทั้งหมด เนื่องจากร่างที่เสนอต่อสภา ไม่มีบทเฉพาะให้มีผลบังคับใช้ทันทีนับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

“ส.ว.ได้พูดคุยว่าเห็นตรงกันในเรื่องการแก้มาตรา 112 ที่มีอีกยาวไกล และเสนอจะผ่านหรือไม่ ผมทราบดีว่ากระบวนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการของพรรคก้าวไกลที่เกิดขึ้น ผมขอฟังคำชี้แจง ก่อนจะตัดสินใจโหวต ทั้งนี้ การโหวตของผมคือ การกระทำในรัฐสภาที่ศักดิ์สิทธิ์ แสดงสัญลักษณ์ทุกเวลา ผมไม่อาจยอมรับได้กับการเห็นด้วยหรือสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล” นายคำนูณ กล่าว

นายคำนูณ กล่าวว่า ส่วนที่สังคมถามว่า ส.ว.มีไว้ทำไม ตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า การธำรงไว้ซึ่งบทบัญญัติ รัฐธรรมนูญ ในการคุ้มครองฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะของสถาบันฯ มิให้กระทบหรือลดทอนลงไป เพราะการแก้ไข ม.112 ถือเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของ ส.ว.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน