มติที่ประชุมร่วมรัฐสภา ไม่เห็นชอบ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ เหตุเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่ง พบ ส.ว.งดออกเสียงถึง 159 คน มีเห็นชอบแค่ 13 คน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ก.ค.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม หลังจากนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ได้เปิดให้ส.ส.และส.ว.อภิปราย โดยใช้เวลาอภิปรายประมาณ 6 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 15.50 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า สมาชิกได้อภิปรายคุณสมบัติครบทุกฝ่ายเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดแล้ว ขอปิดการอภิปรายและจะดำเนินการออกเสียงลงคะแนน
ประธานรัฐสภา กล่าวว่า การพิจารณาให้ความเห็นชอบให้บุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ ตามมาตรา 272 ประกอบด้วยมาตรา 159 และข้อบังคับที่ 137 ให้การลงคะแนนกระทำโดยเปิดเผย ตามข้อบังคับ 56(2) โดยใช้วิธีเรียกชื่อสมาชิกรัฐสภา โดยมติเห็นชอบนั้นต้องมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา
และเนื่องจากในวันนี้ส.ส.ที่ถูกเสนอชื่อมีคนเดียวคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพื่อให้การออกคะแนนและลงมติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้มีคณะกรรมการนับคะแนน 6 คน และตอนลงมติ ขอตรวจสอบองค์ประชุมโดยใช้วิธีกดเสียงแสดงตน และเมื่อสมาชิกครบองค์ประชุมแล้ว จะให้เลขาธิการสภาอ่านรายชื่อเรียงตามลำดับตัวอักษร ให้ลงคะแนนเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ
ประธานให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม พบว่า แสดงตน 674 คน ถือว่าครบองค์ประชุม
จากนั้นเปิดให้สมาชิกรัฐสภาลงมติโดยเรียงตามลำดับตัวอักษร ผลปรากฏว่า เห็นชอบ 324 คะแนน ไม่เห็นชอบ 182 งดออกเสียง 199 คน
โดยเสียงเห็นชอบ มีส.ส. 311 คน ส.ว. 13 คน
ไม่เห็นชอบ มีส.ส. 148 คน ส.ว. 39 คน
งดออกเสียง แยกเป็น ส.ส. 40 คน ส.ว. 159 คน
ทำให้นายพิธา ได้รับคะแนนเห็นชอบไม่เกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ดังนั้น จึงถือว่ามติที่ประชุมไม่เห็นชอบการแต่งตั้งนายพิธา เป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมมาตรา 272 วรรคหนึ่ง จากนั้นสั่งปิดประชุมเวลา 18.25 น.
