เรืองไกร ชี้ ‘ชาดา’ ถือหุ้นสื่อ ต่างจาก ‘พิธา’ ตรวจแล้วไม่พบข้อมูล แซะพวกกดดันส.ส.-ส.ว. งดออกเสียงโหวตพิธา หัดอ่านข้อบังคับบ้าง

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ถือครองหุ้นสื่อ Thai Food Network Tv ว่า ตนได้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งต่างจากกรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถือหุ้นสื่อไอทีวี ซึ่งปรากฏข้อมูลในการค้นหาได้ชัดเจน

อ่านข่าว : ชาดา รวย 147 ล้าน มีปืน 23กระบอก โค 214 ตัว กระบือ 132 ตัว สะสมพระ-ตระกรุด

แต่กรณีของนายชาดา จากการค้นหาข้อมูลในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังไม่ปรากฏชื่อหุ้นดังกล่าว ทำให้ยังไม่สามารถตรวจสอบวัตถุประสงค์บริษัท และบัญชีผู้ถือหุ้นได้ และจากการค้นหาด้วยภาษาไทย ก็ใช้คำว่า ไทย ฟู้ดส์ เน็ตเวิร์ก ไม่มีคำว่า ทีวี ซึ่งไม่ตรงกับชื่อการถือครองที่นายชาดา แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงยังไม่เพียงพอต่อการยื่นคำร้อง

“ยืนยันว่าผมไม่ได้ร้องหรือแสดงความเห็นพร่ำเพรื่อ แต่ต้องดูจากพยานหลักฐานเป็นหลัก ซึ่งผมก็ยังจะตามเรื่องนี้ต่อ” นายเรืองไกร กล่าว

ส่วนที่มีการไปกล่าวหาสมาชิกรัฐสภา ที่มีความเห็นต่างในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการงดออกเสียง จนมีการไปขับไล่ส.ว. ส่งใบลาออกถึงบ้านนั้น นายเรืองไกร กล่าวว่า ตนเคยเป็นส.ว.มา 3 ปี เรื่องนี้ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิก ซึ่งเขียนไว้ในข้อบังคับการประชุมหมดแล้ว ไปหาอ่านดูบ้าง เปิดในคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คก็ดูได้ ไม่ใช่แสดงความเห็นไปแล้วไปกล่าวหาว่าคนไม่โหวตมีความผิดทางอาญา เสียดายทั้งที่คนพูดก็รู้กฎหมาย จึงอยากชี้แจงแทนสมาชิกบ้างในฐานะที่เราพอมีความรู้และพอที่จะอธิบายให้นักวิชาการต่างๆที่ชอบแสดงความเห็นได้เข้าใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน