ศิธา ซัดเผด็จการรูปแบบใหม่ผ่าน 250 สว. จวกเพื่อไทย สร้างละครหาความชอบธรรม หวังทิ้ง ‘ก้าวไกล’ เตือนสติจับมือ 2 ลุง เหมือนหักหลังคนเสื้อแดง

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2566 น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย กล่าวในรายการ‘อยากมีเรื่องคุย’ ทางข่าวสดออนไลน์ ว่า การโหวตเลือกนายกฯ ตามมาตรา 159 ไม่ได้ระบุจำนวนครั้ง แต่ระบุพรรคต้องมีส.ส. 25 คน ดังนั้น ถ้าเสนออีกก็เสนอได้

การมาอ้างข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 แล้วบอกว่าเป็นญัตติ มันไม่ใช่ญัตติ แต่เป็นวาระการโหวตเลือกนายกฯตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญใหญ่กว่าทุกกฎหมายและทุกกฎหมายใหญ่กว่าข้อบังคับการประชุม ที่ไปกล่าวหาคนอื่นล้มล้างการปกครอง กรณีนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญและโยงไปถึงการล้มล้างการปกครอง

“การทำแบบนี้เป็นการทำเสียงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยเลือกผู้บริหารบ้านเมือง ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง เห็นว่าควรยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ และต้องดูว่าทำอย่างไรไม่ให้กลไกพวกมากลากไปของรัฐสภา ซึ่งมี 250 คนที่ตั้งมาโดยเผด็จการสามารถทำให้เกิดเผด็จการได้อีก เป็นเผด็จการรูปแบบใหม่ ไม่ต้องใช้รถถังปืนกล กดหัวประชาชน แต่ใช้อำนาจผ่านสว. 250 คน มาหักล้างรัฐธรรมนูญ” น.ต.ศิธา กล่าว

เมื่อถามว่าเป็นการเปิดทางขั้วอำนาจเดิมหรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า ดูหมากก็รู้ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านอยู่แล้ว ให้โหวตก็จบแต่ช่วงเช้า แต่นี่คือวางแผนดึงเอาการกำหนดเกมมาอยู่ส.ว. กลายเป็นประชาชน 39 ล้านเสียงไปเลือกตั้งไม่มีความหมาย ไม่ใช่แค่ 14 ล้านหรือ 24 ล้านเสียง ถือเป็นความพ่ายแพ้ของประชาชนทั้งประเทศและประชาธิปไตยทั้งระบบ ออกไปเลือกตั้งเป็นแค่พิธีกรรม เชื่อว่ากระแสประชาชนจะไม่พึงพอใจมากๆ ซึ่งเราไม่อยากให้ประเทศชาติไปถึงจุดนั้น

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ส่วน 8 พรรคร่วมจะแตกหรือไม่นั้น คิดว่ามันมีลางบอกเหตุว่ามีการปูทางให้ได้ความชอบธรรมว่าจะเกิดการแตกของ 8 พรรค ถ้า 2 พรรคไม่จับกันให้แน่น จะเป็นแค่ตัวเลขหลอก เพราะในรัฐธรรมนูญกำหนดพรรคเสียงอันดับ 1 คือ สว.250 เสียง การที่ตนเสนอให้แอดวานซ์เอ็มโอยูเพราะมีอะไรแหม่งๆ มีสัญญาณอยู่ มีสิ่งบอกเหตุ มีกลไกข้างล่าง หาความชอบธรรมจะหย่าร้าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเองว่าประชาชนไม่สนใจว่าจะร่วมกับพรรคไหน ประชาชนรอไม่ได้แล้ว ต้องบอกว่าประชาชนไม่ได้กินหญ้า

“ผมไม่เคยบอกว่าต้องเป็นนายพิธา แต่บอกตลอดว่า 2 พรรคเป็นใครก็ได้มาเป็นนายกฯ ขอให้ประชาธิปไตยเดินหน้า ผมยอมเสียมารยาทดีกว่าจะไปสืบทอดอำนาจให้เผด็จการ ผมอยากให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯกลับบ้านมากที่สุด กลับมาสู้คดี ผมเห็นด้วยว่านายทักษิณ ควรได้กลับบ้าน และเห็นด้วยว่าลุงโทนี่ ควรชวน 2-3 ลุงกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน ให้ประชาธิปไตยเดินหน้า แต่ไม่ใช่ว่ามาสู้กันแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเอาลุงกลับบ้านไปเทรดกับการเอา 2 ลุงกลับมาวุ่นวายกับการเมืองแบบนี้”








Advertisement

น.ต.ศิธา กล่าวว่า แต่ไม่รู้ว่าคนไหนหน้าไหนเสนอแนวทางแบบนี้ให้ท่าน จนบ้านเมืองวุ่นวายอย่างนี้ นายทักษิณสอนตนเองว่าผลประโยชน์ของประชาชน ประเทศชาติใหญ่ที่สุด ผลประโยชน์ของประชาชนรองลงมา

ส่วนการก้าวเดินเพื่อไทยกับการกลับบ้านของนายทักษิณ เป็นเรื่องเดียวกัน มีสิ่งบอกเหตุนายทักษิณ พูดว่าเลือกตั้งเสร็จก็กลับบ้าน เราฝ่ายประชาธิปไตยชนะถล่มทลาย มาจับมือกันทำกระบวนการยุติธรรมให้โปร่งใส นายทักษิณกลับมาสู้คดี บ้านเมืองก็สงบ ประชาธิปไตยก็ไปได้ 3 ลุงรวมลุงโทนี่ก็กลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ไม่ใช่เอาข้อบังคับมาชนะรัฐธรรมนูญแบบนี้

ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องใจแข็ง ใครจะมาแซะ มาลูบหลังให้ไปก็ต้องใจแข็ง อย่าทำตามแนวทางที่เขาเสนอมา และต้องเกาะกันให้แน่นกับก้าวไกล ขอให้ใจแข็ง เราก็ชนะ แต่ถ้าไปจับมือกับขั้วเดิม ประเทศก็จะกลับไปเป็นอย่างเดิม ต้องใจแข็งกับการต่อรองของอำนาจเก่าที่ต้องการมีส่วนในอำนาจใหม่ เพราะมันจะทำลายประชาธิปไตย

เมื่อถามว่าระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทย ใครจะทิ้งใครก่อน น.ต.ศิธา กล่าวว่า ใครทิ้งใครก่อน ต้องดูฟุตปริ๊นใครรุกไล่ใครก่อน ต้องดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีการรุกคืบไปเรื่อยๆ แอบหยิกแอบข่วนกันข้างหลัง

ส่วนกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล จะไม่มีพรรคไทยสร้างไทยรวมอยู่ด้วย ขณะที่พรรคเป็นธรรมก็พูดชัดเจนพร้อมเป็นฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกล น.ต.ศิธา กล่าวว่า ในพรรคยังไม่ได้คุยกัน แต่เสียงในพรรค หลายคนคงไม่ไปกับพรรคเพื่อไทย สำหรับตน ก็ต้องชัดเจนกับประชาชน กลับคำพูดไม่ได้ ตนพร้อมกลับบ้านไปเลี้ยงลูก

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยต้องแสดงออกมาเองว่าไม่เอาก้าวไกล แล้วจะเอาลุงมา ต้องพูดให้ชัด ทุกวันนี้เหมือนสร้างละครหาความชอบธรรมให้ประชาชนเห็นว่าไปไม่ไหว ทั้งที่ไม่จริง หวังขว้างงูให้พ้นคอ ซึ่งประชาชนอยากให้ก้าวไกลกับเพื่อไทยจับมือกัน แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมเผด็จการ ก็ต้องชัดเจนไปเลยว่าจะไปตรงไหน แต่ก็ต้องระวังคนเสื้อแดงจะไปร่วมม็อบ คนที่สู้กับเพื่อไทยมา ถ้ารู้สึกว่าหักหลังกันเอง เหตุการณ์จะเกิดขึ้นอย่างไร ใครจะปราบม็อบ จะเป็นคนจากเพื่อไทยเหรอ

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ส่วนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาพูดแรงถึงด้อมส้มว่า เขาต้องการเทสต์ว่ามวลชนมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง เพราะคิดว่ามีตัวตนแค่ในออนไลน์ เมื่อได้ระบายออกมาก็ฟินแล้ว แยกย้ายกลับบ้าน ไม่ได้ออกมาชุมนุมกันจริงซึ่ง ไม่ใช่เรื่องพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กินยาผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน