สุพิศาล ชี้ม.112 แค่ข้ออ้าง ที่จริง คือไม่เอาก้าวไกล วอนทำเพื่อประชาชน ยืนบนหลักการประชาธิปไตย เชื่อครั้งหน้าได้ 20 ล้านเสียงแน่

วันที่ 22 ก.ค.2566 พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตสส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีพรรคเพื่อไทยที่กำลังทอดสะพานข้ามขั้วไปหารัฐบาลเดิม รวมถึงพรรคลุงด้วย ถือเป็นการฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมว่า ก่อนอื่นต้องย้ำว่า ตนกำลังนอนดูข่าวอยู่ที่บ้าน ขอพูดในฐานะความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่พูดในนามพรรคว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำ คือใช้อำนาจจากการที่ได้รับมอบฉันทะจากก้าวไกลไป

การทำนั้นมันควรอยู่ในบริบทของฝั่งประชาธิปไตย ถึงจะเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์เพราะว่า สิ่งสำคัญคือ8 พรรคเดิม คือ8 พรรคที่เป็นฝั่งประชาธิปไตยโดยแท้ มิใช่สืบทอด จะเห็นว่าผลพวงของกับดักสุดท้าย และเฮือก สุดท้ายของรัฐธรรมนูญ 2560 ถูกใช้โดยคนกลุ่มหนึ่ง หักรัฐธรรมนูญยังกล้าทำเอาง่ายๆ มันกล้าทำตั้งแต่ ใช้มาตรา 272 บีบรัดจนกระทั่งการทุบด้วยข้อบังคับที่ 41 ของรัฐสภา ซึ่งมาตรา 112 เป็นข้ออ้าง แต่ที่จริงคือไม่เอาก้าวไกล มีอยู่แค่นั้นแหละ

เมื่อถามถึงกระเเสโซเชียลฯเสียงเเตก ทั้งยุให้ก้าวไกลขี่คอตามติดเพื่อไทยอยู่อย่างนี้ และมีความเห็นอยากให้ก้าวไกลถอยไปเป็นฝ่ายค้าน พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า จะต้องยืนอยู่บนหลักประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ ใครจะออกไป ก็ออกไป แสดงว่าการออกไปนั้นเขาไม่ได้อยู่ไหนวงกลมที่เขาอยากอยู่ เขาต้องการกลับไปผูกติดกับอำนาจเดิม ทุนเดิม

อย่างไรก็ดีจะอ้างว่าเพื่อทำให้ประเทศชาติคือกลืนเลือด เพื่อทำให้ชาติไปได้ แต่จริงๆมันมีหนทางอื่นตั้งเยอะแยะ อย่างมากที่สุด รอหนึ่งปีให้สว.ไป ก็ยังทำได้ ทำไมไม่ทำ ทั้งที่เรื่องนี้ก็เป็นกฎหมายอยู่ด้วย

เมื่อถามว่าที่ไม่ยอมทำ เพราะว่ากลัวใครบางคนไม่ได้กลับบ้านใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า อืม! ก็เป็นเงื่อนไขที่ไปผูกติดกันอยู่ไง ก็มีอยู่แค่นั้นแหละ ทำไมไม่ทำให้ประชาชนคนไทย

ส่วนการวิเคราะห์ล่าสุด ว่า 3 พรรคฝ่ายค้านแน่ๆขณะนี้ จะมี ก้าวไกล ประชาธิปัตย์ และไทยสร้างไทย ส่วนตัวมองอย่างไรนั้น พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ไม่น่าจะไป เพราะเขาก็มีอุดมการณ์ของเขา เช่นเรื่อง ประชาธิปัตย์กับ เพื่อไทย ไปด้วยกันไม่ได้เพราะขบหลี่ยมกันมาตั้งแต่ยุคก่อนปี 2553 ส่วนพรรคไทยสร้างไทย ส่วนตัวมองว่า ก็น่าจะอยู่กับเรา รวมถึงพรรค เป็นธรรมด้วย นี่คือ 3 พรรคคิดส่วนตัว

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวอีกว่า ตอนนี้เรามี 14 ล้านเสียง บวกกับ ทั้งประเทศที่เป็นฝั่งประชาธิปไตย ก็รวมเป็น 27 ล้านเสียง และถ้าเพื่อไทยออกจากวงกลมไปจริงๆ ก็เหมือนกับว่าเขายอมรับ และจะต่อสู้ในระบบ โดยอีกหน่อยเพื่อไทยก็จะเป็นการปลีกตัวออกไปจาก 99% ไปอยู่ใน 1% แน่นอน

ส่วนข้อถามที่ว่า ถ้าไม่ง้อเพื่อไทยแล้วไม่กวักมือเรียกให้กลับมาอยู่ในวงกลมแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า เขาก็จะกลับกลายไปเป็นทุนใหญ่ เขาก็ไม่ได้รักประชาชน สิ่งที่จะเกิดคือห่างออกไปจากวงกลมเขาจะกลายเป็น 1% ไม่ใช่ 99% แบบที่พวกเราขีดเส้นใต้ของเราไว้

คราวหน้า ก้าวไกลอาจจะถึง 20 ล้านเสียงครึ่งประเทศ เราก็พอใจแล้ว 4 ปีไม่นานหรอก รอได้ เราเคยบอกเอาไว้เเล้วตั้งเเต่ตั้งพรรคอนาคตใหม่ว่า เป้าหมายตามแผนของเราคือวางเป้าไว้ 12 ปี ทั้งนี้ คนรุ่นสองเราก็รอรับ รุ่นสามเราก็มี รุ่นสี่เราก็เตรียมไว้แล้ว พอจบรุ่นสี่รุ่นหนึ่งก็วนกลับมา

ถ้าเขากล้า ทำตามที่มีข่าวออกมาตามหน้าสื่อทุกวันนี้ผมก็คิดอย่างเดียว เชื่ออย่างเดียวว่า เขาจะไม่กล้าทำตามข่าว เคยนั่งคุยกันตอนไปเจรจาตั้งรัฐบาล8 พรรค

ทว่า สำหรับผม ถ้าเป็นจริงตามข่าวไม่รู้สึกเซอร์ไพรซ์ แต่ถ้าเขายังอยู่ในวงกลมน่าจะเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรซ์ ถ้าเรายังถือหลัก 27ล้านเสียงอยู่ เขาจะดีดเราหรือไม่ดีดเราก็ไม่รู้ แต่เขาไปเอาคนอื่นมา โดยเอาคนอื่นที่แบกรับเราได้หรือเปล่านั่นคือปัญหา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน