อนุสรณ์ เผยตอนนี้ เพื่อไทย ห่าง ก้าวไกล ไม่ถึง 10 เสียง ถ้า 1-2 เดือน มีเหตุยุบพรรค พท.อาจได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ถาม 10 เดือนรอได้ ทำไมไม่รอ 4 ปี

วันที่ 2 ส.ค.2566 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ดำเนินรายการ สรยุทธ สุทัศนะจินดา และ ไบร์ท พิชญทัฬห์ เผยแพร่ผ่านทางยูทูบ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตอนหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่ขอให้แลนด์สไลด์เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว.ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่เป็นแกนนำพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าที่บอกว่าปิดสวิตช์ ส.ว.ทำได้อยู่แล้ว แต่วันนี้ชัดเจนแล้วว่า ถ้าไม่แลนด์สไลด์จะปิดสวิตช์ ส.ว.ไม่ได้ ปัญหาจะเกิด

การเมืองเดินมาถึงตรงนี้ สิ่งที่เพื่อไทยกำลังทำเหมือนสิ่งที่ก้าวไกลนำเสนอ ทำไมก้าวไกล พูดแล้วดูเป็นพระเอก แต่พอเพื่อไทยพูดแล้วกลายเป็นผู้ร้าย เรายืนยันว่าเราเคารพประชาชน แต่ไม่เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศต้องการให้รอ 10 เดือน ไม่เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศต้องการให้ก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เท่านั้นเป็นนายกรัฐมนตรี

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อ วันนี้เป็นจังหวะที่เพื่อไทยต้องแสดงศักยภาพเพื่อรวบรวมเสียงและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ วันนี้เพื่อไทยไม่เคยบอกว่าจะผลักพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน เพียงแต่เราเดินหน้าคุยแล้วทุกพรรคบอกว่าไม่สามารถทำงานกับก้าวไกลได้ โดยเราจะเอาข้อสังเกตนี้ไปคุยกับ 8 พรรคร่วมแน่นอน

ประเด็นที่บอกว่าพรรคเพื่อไทยบอกว่ามีเราไม่มีลุง แล้วเที่ยวนี้มีเรามีลุงเป็นการไม่เคารพประชาชน ขอเรียนว่าตอนหาเสียงพรรคเพื่อไทย 141 เสียงที่ได้มา ไม่เคยมีใครบอกว่าจะเข้าไปโหวตพรรคก้าวไกล เข้าไปโหวตพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เราก็โหวตให้นายพิธา เมื่อเราได้คะแนนมาเป็นพรรคอันดับ 2 แต่ว่าสังคมหรือกลุ่มด้อมบางด้อม กลับไม่มองเห็นตรงนี้ 141 เสียงของเพื่อไทยไม่เคยแตกแถว ไม่เคยได้รับคำชม แต่ไปชื่นชม 13 สว.ที่โหวตนายพิธา

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ที่บอกว่าตอนหาเสียงอย่างหนึ่ง แล้วตอนนี้เป็นอีกอย่างหนึ่ง คือต้องดูว่าตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไป วันนั้นเรายังโหวตให้พิธา แต่มาวันนี้พรรคก้าวไกล มาบอกว่าจะไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทย ฉะนั้นเรื่องนี้สังคมต้องชั่งน้ำหนักให้ดี

วันนี้เพื่อไทยจะบอกก้าวไกลว่าที่ไปคุยกับพรรคการเมืองและสว. เขาไม่เอาพรรคก้าวไกล ส่วนจะบอกให้เขาไปหรือไม่ ทั้ง 8 พรรคต้องมีความเห็นว่ามันเป็นแบบนี้ ถ้าเพื่อไทยตั้งไม่ได้ก็จะกลับไปเป็นก้าวไกล แต่ก้าวไกลก็ตั้งไม่ได้เพราะมีแค่ 312 เสียง แล้วอีกอย่างเสียงของก้าวไกล หลังเลือกตั้งใหม่ชนะพรรคเพื่อไทย 11 เสียง แล้วกลายเป็นห่าง 10 ห่าง 9 ห่าง 8








Advertisement

และในระยะเวลา 1-2 เดือนนี้หากมีเหตุจะยุบพรรคการเมือง หรืออะไรก็ตามแต่ ถ้าเพื่อไทยเป็นอันดับ 1 ขึ้นมา จะยอมให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลหรือไม่ ถ้าหากเพื่อไทยเดินหน้าต่อไป กลุ่มกองเชียร์แฟนคลับของบางพรรคการเมืองจะรับได้หรือไม่ ประเทศไทยควรไปต่อหรือไม่ หรือประเทศไทยควรจะรอ 10 เดือน

ถ้า สว.จะโหวตให้ฝั่งประชาธิปไตย 8 พรรคเขาน่าจะโหวตไปแล้ว รอบนี้เห็นสัญญาณ เขาสร้างเงื่อนไขขึ้นมาไม่โหวตนายเศรฐา ทวีสิน และมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเพื่อไทย เมื่อได้รับหน้าที่ก็เลยต้องรวบรวมพรรคการเมืองเพื่อมาปิดสวิตช์ สว.

เชื่อว่าการพูดคุยกันทั้ง 8 พรรคจะมีทางออก เหมือนวันโหวตประธานรัฐสภา ที่ได้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ มาในวันท้ายๆ ฉะนั้นถ้าเราตั้งสติแล้วคิดด้วยเหตุด้วยผล ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวตั้งเชื่อว่าจะมีทางออก เชื่อว่าทั้ง 8 พรรคเมื่อได้ฟังหลักการ เหตุผลที่พรรคเพื่อไทยรวบรวมมาจะช่วยกันหาทางออกได้ ไม่ได้แปลว่าจะต้องผลักก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้านสถานเดียว

“ถ้า 10 เดือนรอได้ ควรจะรอ 10 ปี วันนี้ที่เราพูดคุยเรื่องการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องยังเดินหน้าต่อ ยืนยันว่าทุกข์ประชาชนรอไม่ได้ การเสียโอกาสของประเทศชาติและประชาชนรอไม่ได้ 10 เดือนนี่จะเป็น 1 ปีแล้วนะ ฉะนั้นทำไมไม่รออีก 4 ปี” นายอนุสรณ์ ทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน