เสรี ยันรอดูท่าทีตั้งรัฐบาล ต้องได้พรรคที่มาร่วมไม่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง ชี้โหวตนายกฯ ได้มาตรฐาน สุดท้ายเสนอชื่อใครกันแน่ ยืนยัน สว.ไม่ใช่อุปสรรค
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 8 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จับมือกันจัดตั้งรัฐบาลว่า วุฒิสภาต้องรอให้แต่ละพรรครวมตัวกันให้เสร็จ เพราะต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ต้องได้เสียงเกินกว่า 250 คนขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ได้ 200 กว่าคนแล้ว
ต้องดูว่ามีพรรคใดบ้างเพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ และแกนนำต้องไปตกลงกันว่าจะเอาชื่อท่านใดที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แม้พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แต่ระยะเวลายังมีอยู่ ต้องรอว่าสุดท้ายการเสนอชื่อในสภาจะเป็นชื่อใดกันแน่
เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย อาจรวมเสียงกับพรรคอื่นได้เกิน 253 เสียง สว.มีความมั่นใจว่าเพียงพอจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า การจะมี 2 ลุงอยู่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคต้องตกลงกันเอง สว.ต้องรอว่าจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด หากตอบตอนนี้จะกลายเป็นว่าเราไปสนับสนุนพรรคนั้นพรรคนี้ อาจจะไม่เหมาะสม
ต่อข้อถามว่าแคนดิเดตพรรคเพื่อไทยตอนนี้ยังเป็นนายเศรษฐา สว.จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า อยู่ในเกณฑ์พิจารณามากกว่า เพราะการเสนอชื่อมาแล้วต้องอยู่ในมาตรฐานที่เราเคยตัดสินใจไปแล้วว่า 1.ต้องไม่แตะมาตรา 112 หรือ ไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวดมาตราพระมหากษัตริย์ 2.ดูคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนที่ได้รับการเสนอชื่อ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และ 3.นโยบายของแต่ละพรรคเพื่อนำมาประกอบในการตัดสินใจ ถือว่ามีส่วนสำคัญเพราะมีผลกระทบกับประชาชน
เมื่อถามว่า สว.จะตรวจสอบคุณสมบัตินายเศรษฐา กรณีเลี่ยงภาษีที่ดินหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ตอนนี้มี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พชปร.) มายื่นตรวจสอบแล้ว ซึ่ง กมธ.จะพิจารณารายละเอียดในการประชุมวันนี้ โดยจะดูเรื่องที่เขาร้องเรียนมา ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็ส่งต่อให้ กมธ.ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องตรวจสอบให้เสร็จก่อนการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไปหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ควรตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะเป็นเหตุผลสำคัญของคนจะมาบริหารประเทศ อย่างไรก็ตาม ต้องวางแนวทางว่าต้องไม่อคติ และต้องดูตามเหตุผล
เมื่อถามกรณี นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ระบุ นายกฯ คนต่อไปไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย ทำให้หลายคนมองว่าเป็นธงของ สว.ในการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไปหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่ คิดว่าเป็นเหตุผลของนายกิตติศักดิ์เอง คงเป็นดุลยพินิจของบุคคล เรายังฟันธงตอนนี้ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าพอถึงเวลาจริงการเสนอชื่อในสภาต้องใช้เสียง 1 ใน 10 จะเป็นท่านใด ต้องรอกันนิดหนึ่ง
ส่วนที่ สว.อยากให้นายเศรษฐา มาแสดงวิสัยทัศน์ด้วยตัวเองนั้น นายเสรี กล่าวว่า ใช่ คนที่ได้รับการเสนอชื่อ ต้องขออนุญาตประธานรัฐสภามาแสดงวิสัยทัศน์ ต้องตอบคำถามของสมาชิกที่อยากจะทราบข้อมูลในหลายเรื่อง จะเป็นประโยชน์แก่คนที่ได้รับการเสนอชื่อด้วย
ต่อข้อถามว่าหากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมรัฐบาลจะมีผลต่อการรวมคะแนนเสียงของ สว.หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า แล้วแต่บุคคล จะมีผลหรือไม่ ตนคิดว่าทุกพรรคที่เสนอชื่อมา สว.ต้องพิจารณาทั้งหมด คงไม่เลือกพรรคในการพิจารณา แต่เป็นปัจจัยสำคัญในแต่ละพรรคที่ต้องตกลงกันเอง
เมื่อถามย้ำว่าการลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบนายกฯไม่เกี่ยว แต่อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ต้องดูให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความเข้มแข็ง แต่ละพรรคที่มาร่วมต้องไม่สร้างปัญหาในมวลหมู่ทางการเมือง หรือไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติด้วย
“ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์ปัจจุบันมีการแสดงออกทางการเมืองที่ก้าวร้าว รุนแรง แต่บางพรรคไปอยู่เบื้องหลังยุยงส่งเสริมให้ทำเรื่องเหล่านี้ บ้านเมืองก็ไม่สงบ ฉะนั้นความเป็นนักการเมืองและพรรคผิดชอบแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่จะไปก้าวร้าวกับใครก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ โดยทำให้การเมืองเราไปสู่ทางตัน บ้านเมืองก็เสียหายเพราะเล่นการเมืองแบบไม่รับผิดชอบกัน” นายเสรี กล่าว
