‘ณัฐวุฒิ’ เสียงสั่น ประกาศยุติบทบาท ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย เหตุจับมือพรรค 2 ลุง เตรียมกลับไปขายข้าวแกง ลั่นไม่มีทางเขวี้ยงก้อนหินใส่หลังคาบ้าน
วันที่ 21 ส.ค.2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Live “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ทางช่อง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ตอนหนึ่งระบุว่า ได้ยุติบทบาท ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก แล้วกลับไปขายข้าวแกง โดยได้บอกกล่าวผู้ใหญ่พรรคตั้งแต่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนตัวเข้าใจเพื่อไทย ไม่ได้โกรธเคือง พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้นายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตร ทั้ง นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เรียบร้อยแล้ว
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ตนรอเวลาให้พรรคการเมืองที่รัก เดินมาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ยากลำบากนัก ถามคนสำคัญในพรรคแล้วยืนยันว่า นายเศรษฐา ผ่านในการโหวตได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน จึงตัดสินใจเดินออกมา ส่วนเรื่องนายทักษิณกลับบ้านเป็นคนละเรื่องกันกับการตั้งรัฐบาล
- ณัฐวุฒิ ลั่นทักษิณ ไม่เกี่ยวยึดอำนาจปี57 ชี้ปม นปช.แยกทางเดิน
- ณัฐวุฒิ โพสต์แล้ว หลังโดนถาม มีหรือไม่มีลุง ยันชัดเจน พูดไว้ทุกเวที
“ขอยุติบทบาท ไม่ร่วมกิจกรรมกับรัฐบาล ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเป็นผลมาจากการที่เพื่อไทยไปจับมือกับพรรค 2 ลุง เป็นเหตุผลสำคัญ เข้าใจและเห็นใจเพื่อไทยอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์ที่มันเป็น เพียงแต่ว่าวิถีการเมืองแบบตน เมื่อได้ประกาศประชาชนและแสดงจุดยืนเช่นนั้นมาตลอดก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ยืนยันมา การตัดสินใจยุติบทบาทครอบครัวเพื่อไทย สำหรับตนเป็นเรื่องที่มีรอยในใจ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวเสียงสั่นว่า “ที่นี่เป็นบ้านของผม ผมโตที่นี่ เติบโตที่นี่ สู้ที่นี่ คนในบ้านพี่น้องผมทั้งนั้น แต่ว่าถึงเวลาก็ต้องตัดสินใจ ยอมรับว่าตัดสินใจยาก ไม่ใช่เรื่องยศศักดิ์ตำแหน่งแต่เป็นเรื่องความผูกพัน ความรักและความปรารถนา แต่ขอบอกทุกคนในเพื่อไทยและกองเชียร์ผู้สนับสนุนพรรคว่าไม่มีทางที่จะทำให้พรรคนี้เกิดความเสียหาย ไม่มีทางที่ออกมาแล้วเขวี้ยงก้อนหินใส่หลังคาบ้าน ทั้งที่ไม่เห็นด้วย”
Advertisement
ณัฐวุฒิ เผยเหตุผลสำคัญที่ทำให้ยุติบทบาท มาจากการจับมือกับพรรค 2 ลุง
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ที่เพื่อไทยไปเอาพรรค 2 ลุงมาทำให้รัฐบาลทำงานยากมาก แต่เมื่อเป็นการตัดสินใจภายใต้ข้อจำกัดและสถานการณ์ที่ยากลำบาก ก็ขอเอาใจช่วยให้พรรคเพื่อไทยทำสำเร็จตามที่ได้ประกาศกับประชาชน อยากให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้สำเร็จ และกฎหมายที่ส่งผลให้ญาติผู้เสียชีวิตจากคดีสลายการชุมนุมสามารถฟ้องศาลได้โดยตรง ซึ่งถ้าไม่ทำตรงนี้เจอผมแน่ ทั้งนี้ ส่วนตัวอาจจะหยุดการเมืองเลยด้วยซ้ำ และไม่รู้สึกว่าพรรคพวกในเพื่อไทยหักหลัง ไม่ว่าจะมีอะไรอยู่ในใจก็ตาม
