ทนายเผย สุเทพ พร้อมเจอ ทักษิณ ในศาลฎีกาฯนัดฟังคำวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีโรงพักฉาว 396 แห่ง เชื่อคงไม่มีอะไร ก้าวข้ามมาเเล้วและแยกห้องพิจารณาคดี
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2566 นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อม.อธ.11/2565 ที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุเทพ พร้อมพวกรวม 6 คน กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดแทนโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก (แฟลตตำรวจ) ในวันที่ 22 ส.ค.ว่า พรุ่งนี้(22 ส.ค.) ศาลนัดเวลา 10.00 น. นายสุเทพ จะเดินทางมาตามนัดฟังคำพิพากษา
ส่วนจำเลยคนอื่นจากการประสานก็ทราบว่าจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาทุกคน ก็มีความพร้อมส่วนรายละเอียดก็คงได้หลังจากฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น เเต่หากผู้สื่อข่าวอยากถามอะไรก็ถามได้
เมื่อถามถึงกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาวันเวลาตรงกับการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาที่ศาลฎีกาฯ หากพบหน้ากัน นายสวัสดิ์ กล่าวว่า คงจะไม่มีอะไร เพราะนายสุเทพ ก้าวผ่านตรงนั้นมานานเเล้ว เเละเชื่อว่าอาจจะไม่ได้เจอกันในศาลฎีกาฯ เพราะคงเเยกห้องพิจารณากัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช.โจทก์ยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.52-18 เม.ย.56 จำเลยที่ 1 และที่ 2 เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง จากราคาภาคแยกสัญญามาเป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว จำเลยที่ 5 เป็นผู้ชนะการประกวดราคา
โดยจำเลยที่ 6 ยื่นเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาได้เสนอราคาต่ำอย่างผิดปกติ จำเลยที่ 3-4 ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคาไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติดังกล่าว และได้นำเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคานั้นไปใช้ในการขออนุมัติจ้างและใช้ประกอบเป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา
ต่อมา จำเลยที่ 5 ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาเป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1, 2 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ลงโทษจำเลยที่ 3, 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10, 12 กับลงโทษจำเลยที่ 5, 6 ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำผิด
สำหรับจำเลยที่ 1-6 ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผบ.ตร., พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์
