พรรคร่วมรัฐบาล ดาหน้าฉะ ก้าวไกล เล่นเกมนับองค์ประชุม ไม่สนเรื่องความเดือดร้อนประชาชน จุลพันธ์ ลั่นสมัยประชุมนี้องค์ประชุมจะไม่ล่มอีก ‘อดิศร’ขู่ฝ่ายค้านไม่ได้พิจารณากม.ตัวเองสักฉบับ ภูมิใจไทย อัดเหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจก็ตีโพยตีพาย บอกจะไม่ประมาทก้าวไกลอีก

เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 31 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา สส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังองค์ประชุมล่ม ว่า ต้องขออภัยประชาชน เนื่องจากเรื่องที่กำลังพิจารณาเกี่ยวกับราคาพืชผลการเกษตร สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนเตรียมอภิปรายโดยลงชื่อเกือบร้อยคน แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถอภิปรายได้

เราเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นผลมาจากเมื่อวาน (30 ส.ค.) ที่ฝ่ายค้านเสนอญัตติขอให้สภาพิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งต้องเข้าใจสส.ฝั่งรัฐบาลว่าเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทางการเกษตร จะถูกแซงไม่ได้ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้เดินไปตามระเบียบวาระเดิม คงเป็นเหตุให้ฝ่ายค้านอึดอัด

อย่างไรก็ตาม เรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจนว่าจะนำเข้าประชุมในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นนัดแรกๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่เมื่อวันนี้มีการเสนอนับองค์ประชุม แม้จะเป็นกลไกตรวจสอบของฝั่งเสียงข้างน้อย แต่พรรคก้าวไกลที่เสนอนับองค์ประชุมก็ไม่ได้แสดงตนในที่ประชุมจนสภาล่ม ทั้งที่วันนี้ไม่ใช่ญัตติกฎหมาย แต่เป็นความเดือดร้อนประชาชน จึงไม่ควรนำการเมืองมาเกี่ยวข้อง

“สภาครั้งที่แล้ว เราชวนพรรคก้าวไกลนับองค์ประชุมหลายครั้งก็ไม่ทำ แต่วันนี้ท่านคงแตกฉานการเป็นฝ่ายค้านแล้ว จึงเสนอนับองค์ประชุม ผมเสียใจ เพราะถ้าเป็นกฎหมายที่ท่านไม่เห็นด้วยก็ถือว่าชอบธรรม แต่นี่เป็นญัตติความเดือดร้อนประชาชน จึงควรให้ความเห็นชอบ และมีข้อคิดเห็นถึงรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหา วันนี้เราอาจจะผิดพลาด แต่เราจะไม่ให้สภาล่มอีกต่อไปในสมัยประชุมนี้ เราจะทำงานอย่างเข้มแข็ง ไม่ประมาท” นายจุลพันธ์ กล่าว

ด้าน นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การนับองค์ประชุมหรือการวอล์กเอาต์ ในกรณีที่เป็นกฎหมายสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กรณี 11 ญัตตินี้ เป็นผลประโยชน์ของเกษตรกร ตนจึงแปลกใจว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่สามารถเข้าร่วมแสดงตน จึงขอแสดงบทบาทของฝ่ายค้าน คือวอล์กเอาต์แทนฝ่ายค้าน

“ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ชิงไหวชิงพริบมากจนเกินไปในสภา เพราะอีก 4 ปีข้างหน้า องค์ประชุมนั้นเป็นฝ่ายรัฐบาล ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่ทำองค์ประชุม ผมเกรงว่าฝ่ายค้านจะไม่มีโอกาสได้พิจารณากฎหมายแม้แต่ 1 ฉบับ แม้จะอ้างว่าอย่างนู้นอย่างนี้ ผมอยากให้สภาเป็นสภาที่สดสวยงดงาม เล่นแต่ให้เพียงพอ มัชฌิมาปฏิปทา ท่านมาไม้ไหน ผมก็รู้ทันเหมือนกัน อ้าปากเห็นลิ้นไก่” นายอดิศร กล่าว

นายอดิศร กล่าวอีกว่า วันนี้ขอชมเชยในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็พยายามปรับปรุงตัวให้สมาชิกมาครบองค์ประชุม เพื่อให้สภาเดินหน้าต่อไปได้ ขอกราบอภัยประชาชน ขอกราบอภัยทางฝ่ายค้านด้วยที่เราเห็นไม่ตรงกัน เมื่อมีวิปของแต่ละฝ่ายชัดเจน เราจะได้ถกเภียงกันว่ามีญัตติหรือกฎหมายอะไรที่จะเดินไปพร้อมกัน เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ วันนี้ถือเป็นตัวอย่าง








Advertisement

ขณะที่ สส.พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และโฆษกพรรค กล่าวว่า สส.ของพรรคนั่งรอเพื่ออภิปรายญัตติความเดือดร้อนประชาชนตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งพรรคก้าวไกลพยายามขอเปลี่ยนวาระขึ้นมาแซง 11 ญัตติ แต่เสียงข้างมากในที่ประชุมไม่เห็นด้วย เขาจึงบอกว่าพรรคร่วมรัฐบาลเล่นละครว่าปากท้องประชาชนสำคัญ แต่ประชามติไม่สำคัญ ซึ่งไม่เป็นความจริง พวกตนไม่ได้บอกว่าประชามติไม่สำคัญ แต่ปากท้องประชาชนสำคัญมากกว่า

สิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าใครไม่ให้ความสำคัญเรื่องความเดือดร้อนประชาชน เห็นได้จากทั้ง 11 ญัตติในวันนี้ไม่มีญัตติของพรรคก้าวไกลแม้แต่ญัตติเดียว

“ท่านบอก 150 ชีวิต อยู่ในห้องประชุม เป็นตัวแทนประชาชน แต่ถึงเวลาท่านมาเล่นเกม เมื่อวานท่านผิดพลาดในการหยิบยกเรื่องที่ท่านต้องการอภิปรายไม่สำเร็จ วันนี้ท่านอาละวาดตีโพยตีพาย เหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจก็ไม่เอาด้วย ซึ่งองค์ประชุมเป็นหน้าที่สส.ทั้งหมด แทนที่จะใช้เวทีสภาแก้ปัญหาประชาชน กลับมาเอาเล่นเกมการเมือง ซึ่งน่าเสียใจอย่างยิ่ง วันนี้เราต้องขอโทษที่ไม่สามารถนำเสนอญัตติของพรรคได้ เพราะเราพลาดท่าเสียทีพรรคก้าวไกล แต่ต่อไปเราจะไม่ประมาทเกมการเมืองก้าวไกลอีก” นายภราดร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน