วันชัย เชื่อ สว.คงไม่ปล่อยให้ ครม.เศรษฐา แถลงนโยบายแล้วกลับไปเฉยๆ เตรียมประเด็นคำถามนโยบายเงินดิจิทัล-ปรองดอง-แก้รธน. พร้อมขอคำมั่นทำได้จริงหรือไม่ ชี้รัฐบาลอยู่สั้น-ยาว มาจาก 3 เหตุผล หากทำเพื่อพรรคพวกเท่ากับฆ่าตัวตาย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ วันที่ 11 ก.ย.นี้ ว่า ภาพรวมขณะนี้สว.ไม่ได้ตกลงในรายละเอียดว่าจะแถลงอย่างไร แต่วันที่ 6 ก.ย.จะมีประชุมวิปวุฒิสภา คงจะหารือและตกลงในหลักการ และมอบให้ผู้แทนวิปวุฒิสภา หารือเรื่องเวลากับวิป 3 ฝ่ายที่จะประชุมวันที่ 7 ก.ย.

เชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้ เท่าที่พูดคุยกันในแต่ละกรรมาธิการ (กมธ.) โดยเฉพาะนโยบายใหม่ๆ ของรัฐบาล ไม่ว่าการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต้องซักถามกันมาก รวมถึงนโยบายปรองดอง การทหารและทุกนโยบาย เชื่อว่า สว.ซึ่งทำหน้าที่เป็นวาระสุดท้ายในสภา มีความกระตือรือร้นในการอภิปราย โดยเฉพาะสว.ต่างจังหวัดที่เขาได้รับการร้องเรียนปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปัญหาพืชผลการเกษตร เขาอยากดูว่ารัฐบาลมาบริหารช่วงแรก 3-6 เดือน จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและความหวังให้กับประชาชนตามที่หาเสียงได้หรือไม่

“ประเด็นเหล่านี้ ผมเชื่อว่าสว.คงไม่ปล่อยให้รัฐบาลแถลงนโยบายแล้วกลับไปเฉยๆ จะต้องหาคำมั่นคำยืนยันให้ชัดเจน ว่าแต่ละเรื่องนโยบายทำได้จริงหรือไม่ ไม่ว่าการลดค่าไฟ ค่าครองชีพ และนโยบายพักหนี้ต่างๆ เมื่อไรทำได้ ไม่ใช่เหมือนพรรคอื่นๆ หรือรัฐบาลอื่นๆ ที่แถลงนโยบายเสร็จเรียบร้อย ทำได้หรือไม่ก็ไม่รับผิดชอบ รัฐบาลของนายเศรษฐา จะต้องถูก สว.จี้และขอคำมั่นชัดเจนในแต่ละนโยบาย” นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยประกาศเป็นวาระแห่งชาตินั้น เราจะขอคำมั่นว่าหมวดพระมหากษัตริย์จะแตะหรือไม่อย่างไร รวมถึงรัฐบาลจะแก้ไขอะไรบ้าง ที่สำคัญคือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะมาจากไหน จากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือมาจากส่วนใด หากมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดจะเกิดอิทธิพลครอบงำจากพรรคการเมือง ทำให้รัฐธรรมนูญไม่ได้มาจากความต้องการของประชาชนจริง อาจเป็นความต้องการของพรรคการเมือง

ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ต้องหาความพอดีและความชัดเจนว่า คนที่จะมาร่างควรมีภาคส่วนใดบ้าง นักวิชาการควรมาอย่างไร สาขาอาชีพต่างๆ ควรมาอย่างไร การเลือกตั้งควรมีสัดส่วนอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะฟังความชัดเจนจากรัฐบาล

เมื่อถามว่า สว.ติดขัดเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี เช่น เอาตำรวจคุมกระทรวงศึกษาธิการ นายวันชัย กล่าวว่า ข้อจำกัดทางการเมืองของเขา รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมือง บางคนอาจจะมีข้อตำหนิ ไม่เหมาะสม แต่ส่วนตัวถือว่าจัด ครม.ในสถานการณ์อย่างนี้ได้ขนาดนี้ ดีแล้ว แต่ลำพังแค่หน้าตาของรัฐมนตรีคงไม่พอ ผลงานเป็นเรื่องสำคัญที่จะลบข้อครหาของคนที่เป็นรัฐมนตรีไปได้

ถ้าทำงานแล้ว 3-6 เดือนหรือ 1 ปี มีผลงานดีจะลบข้อตำหนิได้หมด แต่หากไม่มีผลงานยิ่งกว่าถูกตำหนิ เหมือนเป็นการซ้ำเติมหน้าตาของรัฐมนตรีคนนั้น ดังนั้น การที่จะรัฐบาลอยู่ได้หรือไม่ได้ อยู่ยาวหรือไม่ มาจากเหตุ 3 ประการ คือ 1.เป็นแล้วมีผลงานหรือไม่ ถือว่าสำคัญที่สุด 2.พรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งหรือไม่ จะทำให้รัฐบาลอยู่สั้นก็ได้หากทะเลาะกัน ดังนั้น ในสถานการณ์นี้หากผนึกกำลังกันได้เข้มแข็งและมีผลงาน จะทำให้รัฐบาลอยู่ได้ยาว

3.ผลงานที่ปรากฏในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวจะเป็นตัวกำกับสำคัญ โดยเฉพาะไม่โกงหรือทุจริตคอร์รัปชั่น หากเป็นรัฐบาลแล้วเอื้อประโยชน์ให้พรรคหรือพรรคพวก รวมถึงประโยชน์ของบริษัท บริวารของพรรคพวกตัวเอง เท่ากับเป็นรัฐบาลฆ่าตัวตาย สิ่งเหล่านี้มีบทเรียน ดังนั้น รัฐบาลต้องดูบทเรียนเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด

เมื่อถามถึงความเหมาะสมของเวลาการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายวันชัย กล่าวว่า เวลา 2 วันมีความเหมาะสม และเชื่อว่าการอภิปรายจะใช้เวลายาวนานกว่าสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ที่เวลารวม 30 ชั่วโมง ทั้งนี้ เชื่อว่า สว.จะขอเวลามากกว่าครั้งก่อนอยู่มาก เพราะมีหลายประเด็นต้องซักถามรายละเอียด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน