‘สุทิน’ เปิดเงื่อนไข เม.ย. ปีหน้าไม่ต้องเกณฑ์ทหาร เตรียมเพิ่มสวัสดิการจูงใจคนสมัคร ลั่นเงินเดือนต้องรับจริง จ่อโอนเข้าบัญชีโดยตรง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ย.2566 นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หลังได้หารือกับว่าที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า มีการพูดคุยกับ 3 เหล่าทัพแต่ยังไม่ลงลึกในรายละเอียด เรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เราพบว่ากองทัพเขาดำเนินการมานานแล้วและทำมาเป็นขั้นตอน เพียงแต่หากเราอยากให้รวดเร็วและทันกับที่สังคมต้องการ รัฐบาลจะต้องเข้าไปกำกับสนับสนุน ก็ไม่หนักใจอะไร
สำหรับนโยบายปรับลดกำลังพลนั้น ที่ระบุจะสามารถเริ่มต้นได้ในเดือนเมษายน 2567 นายสุทิน กล่าวว่า คำว่าเมษายนปีหน้าหมายถึงการเกณฑ์ทหาร ซึ่ง พล.อ.สนิทชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม แจ้งว่าได้ศึกษาเรื่องนี้ไว้แล้ว เราสามารถรับสมัครได้เลย และเมื่อถึงเมษายนปีหน้าหากมีคนสมัครเต็ม เราก็ไม่ต้องไปเกณฑ์ทหาร
ส่วนที่ระบุจะปรับลดกำลังพล หมายถึงการปรับโครงสร้างกองทัพที่เราชอบพูดกันว่านายพลเยอะไป ซึ่งส่วนนี้กองทัพก็มีแผนอยู่แล้ว ทำมาเป็นขั้นตอนและมีเป้าหมายว่าปี 2570 ขนาดกองทัพจะเปลี่ยน จำนวนนายพลก็จะเปลี่ยนด้วย กองทัพเขาตั้งใจจะทำอยู่แล้วและมีแผน แต่รัฐบาลโดยเฉพาะในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ต้องไปช่วยทางกองทัพให้ไปสู่เป้าหมายนั้น
เมื่อถามว่ากองทัพต้องการทหารเกณฑ์ในจำนวนหนึ่ง แต่หลังเปิดรับสมัคพบว่าขาดประมาณ 40,000 คน มีแนวทางที่จะปรับลดหรือเพิ่มเงินเดือนเพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนมาสมัครเพิ่มขึ้นอย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่า ต้องมีทหาร และทหารมีกำลังที่เขาประเมินแล้วว่ากองทัพต้องมีกำลังพลเท่าใด เราจะไปปรับลดกำลังพลโดยไม่คำนึงถึงความเข้มแข็งของกองทัพก็ไม่ได้
เมื่อกองทัพมีเป้าหมายว่าต้องมีทหารเกณฑ์จำนวนหนึ่ง เช่น 90,000 ถึง 100,000 คน เพราะฉะนั้นทำอย่างไรจะได้จำนวนนี้ ก็เปิดรับสมัครก่อน ส่วนการเพิ่มเงินเดือนเพื่อเป็นแรงจูงใจก็เป็นอีกทางหนึ่ง ซึ่งกองทัพเองก็ต้องการคนสมัครใจ เพราะมีความพร้อม ได้ทหารที่ดี ในส่วนที่เกณฑ์มาถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากได้
“ได้คนสมัครใจเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ถึงจะเกณฑ์ และยอดเท่าที่ฟัง กองทัพก็ยินดีปรับลด เพราะยอดปัจจุบันเยอะไป สามารถปรับลดลงได้ แต่ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่กระทบต่อศักยภาพเมื่อลดแล้ว การรับสมัครก็เข้าเป้าขึ้น ”
เมื่อถามว่าต้องปรับลดพลทหารที่ไปทำหน้าที่ทหารบริการลงด้วยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็คุยกันว่าการที่จะให้คนมาสมัครเยอะๆ จะต้องสร้างแรงจูงใจ ซึ่งในความคิดของตนต้องปรับ 2 ประการ
1.ปรับสวัสดิการ เพื่อเป็นแรงจูงใจ
2.ปรับทัศนคติที่สังคมมีในเชิงลบกับทหารเกณฑ์ ยังติดภาพเดิมว่าระบบการฝึกทารุณโหดร้าย เด็กเจ็บ เด็กตาย เราต้องปรับความเชื่อ ซึ่งความจริงแล้วมันมีไม่กี่กรณีแต่เป็นข่าวไปทั่ว
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่า ทหารเกณฑ์ได้เงินเดือนจริงแต่รับจริงได้ไม่ถึง เราต้องพูดให้ชัดเจนว่าคนมาเป็นทหารเกณฑ์จะได้รับเงินเดือนจริง ส่วนไหนที่ต้องหักต้องอธิบายได้ และ เท่าที่คุย ผบ.เหล่าทัพ พูดถึงขนาดว่า ต่อไปจ่ายเงินเดือนทหารเกณฑ์จะจ่ายตรงเข้าบัญชี ซึ่งจะทำให้เกิดความโปร่งใส หากปรับ 2 อย่างนี้รวมถึงสวัสดิการคนจะสมัครเยอะ ดีไม่ดีจะเยอะเกินกว่าความต้องการ
