FootNote:แนวทาง ปฏิรูป เชิงพัฒนา เพื่อไทย เชื่อมต่อ “กองทัพ”
จังหวะก้าวของพรรคเพื่อไทย ต่อการเปิดตัว นายสุทิน คลังแสง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มากด้วยความรัดกุม นุ่มนวล อย่างยิ่งในการเชื่อมประสาน
ไม่ว่าจะเป็นจังหวะก้าว นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ว่าจะเป็นจังหวะก้าว นายสุทิน คลังแสง ปรากฏมาอย่างเป็นระบบ
เริ่มตั้งแต่ นายสุทิน คลังแสง ถือกระเช้าดอกไม้เข้าพบและคารวะ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จากนั้นก็เป็นการเข้า คารวะ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต
ไม่เพียงในฐานะ “อดีต” นายกรัฐมนตรี หากแต่ยังเป็นผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทย
จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ทำหน้าที่ในการนำ นายสุทิน คลังแสง เข้าร่วมรับประทานอาหารกับผบ.เหล่าทัพ ทั้งเพื่อแนะนำตัวและหารือรับรู้ปัญหาและความต้องการ
อย่าได้แปลกใจหากระหว่าง “นโยบาย” อันมาจาก “สภากลาโหม” ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ “นโยบาย” ของพรรคเพื่อไทย จะกลมกลืนราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน
นี่ย่อมเป็น “รูปธรรม” แห่งการ “ก้าวข้าม” ความขัดแย้ง
ต้องยอมรับว่าท่าทีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอันมี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และมี นายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มิได้มีความแปลกแยก
ยังดำเนินไปเหมือนกับรัฐบาลยุคพรรคไทยรักไทย รัฐบาลยุคพรรคพลังประชาชน และรัฐบาลยุคพรรคเพื่อไทย
แม้ในยุคพรรคพลังประชาชนจะมี นายสมัคร สุนทรเวช ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แม้ในยุคพรรคเพื่อไทยจะมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
กระนั้น แก่นแท้แห่งการบริหารและการดำรงตำแหน่ง ก็ยังเป็นการประนอมประโยชน์กับกองทัพ หากมีการปรับเปลี่ยนก็ยึดกุมความแข็งแกร่งของกองทัพ อย่างเป็นด้านหลัก
มิได้เป็นการหักด้ามพร้าด้วยเข่าอย่างแน่นอน
แก่นแท้แห่งพรรคเพื่อไทย คือการพยายามในการประสานประโยชน์ไม่ว่าในทางการเมือง ไม่ว่าในทางการทหาร ไม่ว่าจะเรียกว่า การปฏิรูป หรือการพัฒนา
แนวทางนี้สร้างความต่างไปจากแนวทางพรรคก้าวไกล
เป็นความแตกต่างที่แม้จะมอบหมายให้ นายสุทิน คลังแสง ซึ่งเป็นนักการเมือง เป็นพลเรือน เข้าอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
วิธีการของพรรคเพื่อไทยมิใช่หักด้ามพร้าด้วยเข่า หากแต่ทำให้กองทัพกับการเมือง เดินไปด้วยกันอย่างราบรื่น
