“ประเสริฐ” รมว.ดีอีเอสคนใหม่ เข้ากระทรวงวันแรก ลุยนโยบายเร่งด่วน เรียกคุย เฟซบุ๊ก หลัง อดีตรมต. ร้องศาลขู่ปิด ชี้เรื่องละเอียดอ่อน กระทบคนมาก
เมื่อเวลา 09.29 น. วันที่ 7 ก.ย.2566 นายประเสริฐ จันทรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เข้ากระทรวงวันแรก และทำพิธีสักการะพระพรหม พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัด และข้าราชการกระทรวงบริเวณอาคาร รัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ หลังจากนั้นให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นวันแรกที่เดินทางมาเข้ากระทรวงรู้สึกตื่นเต้น และงานที่กระทรวงดีอีเอสเป็นงานที่ท้าทาย เป็นเรื่องการทำงานที่เกี่ยวกับอนาคต โดยนโยบายเร่งด่วน 2-3 เรื่องที่จะต้องทำ คือ
1.การดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ทั้งการหลอกลวงทางเทคโนโลยี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และข่าวปลอม (เฟกนิวส์) ซึ่งสร้างความ เสียหายต่อประชาชน โดยจะยกระดับความเข้มข้นในการแก้ปัญหาเร่งด่วน จะวางมาตรการการตรวจสอบอย่างเข้มข้น
ประเสริฐ จันทรวงทอง
ซึ่งจะเพิ่มการตั้งศูนย์เฝ้าระวัง และติดตามการทำธุรกรรมทางการเงิน ให้ทำงานคู่ขนานกับศูนย์เฟคนิวส์ เพื่อให้รู้เท่าทันและล้ำหน้าอาชญากร หรือมิจฉาชีพทางไซเบอร์ จะเห็นได้ภายใน 3 เดือนจากนี้ หรือก่อนปีใหม่นี้
Advertisement
2.จะเร่งขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ภายในหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ เพื่อ เพิ่มศักยภาพการทำงานขององค์กรรัฐให้รวดเร็ว ก้าวทันตามเทคโนโลยี รวมถึงยังมีระบบการเชื่อมโยงการเข้าถึงข้อมูล ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ
เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้ที่ต้องการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐง่ายและสะดวกขึ้น เพื่อให้การบริการของภาค รัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3.ให้ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายและทั่วถึงขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต
พร้อมกันนี้ยังมีอีกเรื่องที่ต้องทำเร่งด่วน คือ การเชิญ Facebook (เฟซบุ๊ก) มาพูดคุยและทำความเข้าใจ จากกรณีที่อดีตรมว.ก่อนหน้านี้จะดำเนินการฟ้องต่อศาล เพื่อขอคำสั่งปิดกั้นแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กไม่ให้บริการในไทย เพราะเฟซบุ๊กในไทยมีผู้ใช้มากกว่า 45 ล้านบัญชี เป็นที่นิยม และผู้ใช้งานส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์อย่างสุจริตจากเฟซบุ๊ก
ดังนั้นประเด็นจะปิดกั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะจะกระทบคนจำนวนมาก จึงจะเชิญผู้บริหารเฟซบุ๊กเข้ามาหารือโดยเร็ว แต่ในส่วนของการหลอกลวงออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งที่ต้องดูทั้งระบบ ไม่ใช่การปิดช่องทางการสื่อสาร
เฟซบุ๊ก
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงการทำดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายแรกๆ ของรัฐบาล ในเบื้องต้นได้คุยกับกระทรวงคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำงานร่วมกัน ยืนยันว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ไม่ใช่แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง แต่ในรายละเอียดของนโยบายต้องขอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯก่อน
นอกจากนี้มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากทำ คือ ซูเปอร์แอพ ให้เป็นซูเปอร์แอพของประเทศ ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ทั้งหมดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูล และดิจิทัลลดความเหลื่อม
