จุลพันธ์ แจงดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ลั่นยึดกรอบวินัยการเงินการคลัง ไม่กู้เพิ่ม ไม่แตะต้องกองทุนสมบัติชาติ ย้ำชัดเทคโนโลยี‘บล็อกเชน’โปร่งใส ตรวจสอบได้
เมื่อเวลา 17.40 น. วันที่ 11 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวชี้แจงประเด็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า หลักคิดนี้ไม่ใช่เพื่อได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันจำเป็น ต้องมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก กระจายทุกชุมชนผ่านบล็อกเชน เพื่อให้ทุกคนมี 2 กระเป๋า คือกระเป๋าเงินสดและกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อสร้างโคงสร้างพื้นฐานรองรับให้ไทยเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจดิจิทัลของโลกได้
สำหรับแหล่งที่มาของงบประมาณนั้น ขอให้เพื่อนสมาชิกระมัดระวังในการอภิปรายชี้นำสังคมถึงที่มาของแหล่งรายได้ เพราะจะกระทบกับความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งเรายึดมั่นกรอบวินัยการเงินการคลัง ยืนยันว่าจะไม่มีการแตะต้องทรัพย์สมบัติของชาติ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนวายุภักดิ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศหรือกองทุนประกันตน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราขอเวลาตรวจรายละเอียด สุดท้ายจะชัดเจนทั้งกรอบการใช้เงิน ระยะเวลาดำเนินการ รวมถึงกระบวนการเอางบประมาณมาใช้คืนให้หมดตามระยะเวลาที่กำหนด ไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะ ไม่กู้เพิ่มอย่างแน่นอน และยึดหลักกรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด
ส่วนที่ระบุเรื่องการเอื้อทุนใหญ่หรือการดำเนินการที่ทำให้เกิดราคาที่ไม่เป็นธรรมนั้น เรารับฟังด้วยความระลึกถึงความหวังดี แต่รัฐบาลไม่ได้มองประชาชนเป็นผู้ร้าย เชื่อว่าประชาชนส่วนมากเมื่อได้เงินแล้ว จะจัดสรรการใช้ได้อย่างเป็นประโยชน์ เพื่อให้เม็ดเงินหมุนเวียนได้มากที่สุด
ยืนยันว่าโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เราไม่ได้เลือกว่าทุนใหญ่หรือร้านสะดวกซื้อ จะไม่สามารถเข้าโครงการได้ เพราะเป็นสิทธิของประชาชน และด้วยระบบบล็อกเชนยืนยันว่าไม่มีเทคโนโลยีใดซึ่งจะโปร่งใสและตรวจสอบได้เท่ากับบล็อกเชนในปัจจุบัน ยืนยันว่าโครงการนี้จะเกิดประโยชน์และตรวจสอบได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
