ชลน่าน แจงยิบ งานสาธารณสุข ย้ำต้องมี 50 เขต 50 รพ. ประกาศเป็นโครงการนำร่อง ชี้ทัศนะสังคมไทยบิดเบี้ยว แต่งงานปุ๊บ บังคับสามีทำหมัน ทำคนเกิดน้อย

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 12 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 เป็นวันที่สอง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ชี้แจงนโยบายด้านสาธารณสุขว่า การถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ไปอยู่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บางแห่งมีปัญหาจริง แต่ต่อไปจะลงพื้นที่ไปตรวจดูคุณภาพของการบริการในระดับปฐมภูมิ เพื่อให้การรักษาไม่ต้องมาถึงโรงพยาบาลระดับที่ 2 หรือ 3

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังมุ่งจะทำให้โรงพยาบาลทั้งสังกัดภาครัฐและเอกชน เป็นโรงพยาบาลของประชาชนที่เข้าถึงได้ทุกแห่ง ภายใต้ค่าบริการที่ตอบแทนโรงพยาบาลได้ จะช่วยแก้ปัญหาบุคลากรไหลออก อีกทั้งการจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์ก็ทำด้วยความเป็นธรรม

โครงการ 50 เขต 50 โรงพยาบาล หากไม่มีสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดการที่ตนจะมาตอบคำถามวันนี้คงยากที่เพื่อนสมาชิกจะเชื่อ และยากที่ประชาชนคนทั่วไปจะเชื่อ เพราะเมื่อเราออกนโยบายเรื่องนี้ไป มีคนคัดค้านเราเยอะ ทำไมจึงต้องไปสร้างโรงพยาบาลให้กับคนบางกลุ่ม เพราะโรงพยาบาลมีเป็นพันๆ แห่ง แต่โควิดทำให้เราเห็นชัดว่า ชาวกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ติดโควิดแล้วล้มตายข้างถนน

ขณะที่จ.น่าน บ้านเกิดตนไม่มี จ.บึงกาฬที่บอกว่ามีสัดส่วนหมอต่อประชากรน้อยที่สุดก็ไม่เกิด ไม่มีใครนอนเจ็บป่วยข้างถนน ในจังหวัดที่ออกนอกกรุงเทพฯ ไป มีแต่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งระบบการดูแลเรื่องสุขภาพทั้งเรื่องปฐมภูมิและทุติยภูมิ มีความขาดแคลนและไม่สอดคล้องกันมากในกรุงเทพฯ ซึ่งเราต้องแก้ไขปัญหาตรงนี้ เพื่อให้เขาเข้าถึงการบริการ ซึ่งแน่นอนว่าเรามี 50 เขต เราต้องเติมเต็มเรื่องศักยภาพและช่วยกันพัฒนาขึ้นมา ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องสร้างทุกแห่ง แต่บางแห่งก็จำเป็นต้องสร้างใหม่จริงๆ

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ตนกล้าประกาศว่า เป็นโครงการนำร่องเพื่อเบิกฤกษ์เอาชัย ให้การเข้าถึงสถานบริการทั่วทุกแห่งในกรุงเทพฯ พร้อมทั้งปัญหาสังคมผู้สูงอายุ และผู้เกิดใหม่น้อย กระทรวงสาธารณสุขต้องเข้าไปดูแลเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ เราต้องการใช้กระทรวงเราเป็นจุดกำเนิด จะผลักดันเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ มาดูเรื่องประชากรกันใหม่

“ลูกมากจะยากจน ต้องเอาออกจากสมองคนไทย คนไทยไม่ยอมมีลูก โดยเฉพาะคนที่มีพื้นฐานการศึกษาที่ดี มีความรู้ ความสามารถ มีฐานเศรษฐกิจที่รองรับ ไม่ยอมมีลูก หลายคู่ แต่งงานปุ๊บ บังคับให้สามีทำหมันเลย ไม่อยากมีลูก นั่นคือสิ่งที่กำลังบิดเบี้ยวในสังคมไทย ฉะนั้น เรื่องนี้เป็นนโยบายสำคัญ เราจะทำในมิติของกระทรวงสาธารณสุข และผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ผมเชื่อว่า นายกฯรับเรื่องนี้ ถ้าเราไม่เพิ่มฐานประชากร เราจะแข่งขันกับใครไม่ได้” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนโครงการที่ประกาศควิกวินในหลายเรื่อง เช่น บัตรประชาชนใบเดียว ตนเข้าไปรับงานภายใน 100 วันแรกแล้วประกาศได้เลย เราจะมีเขตสุขภาพเขตหนึ่งที่สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียว เหมือนนโยบายของเราได้ เพื่อนำร่องให้ประชาชนได้เห็น และเพื่อให้จังหวัดอื่น เขตอื่น มีแนวทางไปสู่การปฏิบัติ








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน