ชวน กรีด ‘เศรษฐา’ คุณสมบัติไม่ด้อยกว่าคนอื่น เตือนอย่าล้ำเส้น จนต้องติดคุก อย่าหนีออกนอกประเทศ อย่าทำอะไรที่จะมีปัญหาเมื่อพ้นตำแหน่ง สอนเล่นการเมือง ไม่ควรเกรงใจลูกพี่ แนะให้เอาอดีตมาเป็นบทเรียน
เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 12 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 เป็นวันที่สอง นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายว่า นอกเหนือจากความเหมาะสมของนโยบายแล้ว ความสำเร็จก็อยู่ที่ผู้บริหาร คือครม. การที่ตนไม่ได้ให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติของท่าน แต่เป็นเพราะนายเศรษฐา มาจากพรรคซึ่งเลือกปฏิบัติกับประชาชนโดยเฉพาะในภาคใต้
นายชวน กล่าวว่า เมื่อมามองมาตรฐานของพรรคที่เสนอนายกฯ ยอมรับว่า คุณสมบัตินายเศรษฐา ไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่นในพรรคเลย ถ้าจะเสนอแนะ ก็อย่าไปล้ำเส้นก็คืออย่าไปติดคุก อย่าต้องหนีออกต่างประเทศ อย่าทำอะไรที่มีปัญหาเมื่อท่านพ้นตำแหน่ง วันนี้ยังวัดไม่ได้ ความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ เราไม่อาจทราบได้
แต่สิ่งที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตรวจสอบนั้น เป็นประโยชน์กับท่านว่าจะชี้แจงสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้ ดังนั้น นายกฯคนที่ 30 จะเจอชะตากรรมอย่างไร อยู่ภาคปฏิบัติ ดังนั้น การที่ต้องตรวจสอบความเป็นไปได้ของนโยบายอันเกิดจากผู้บริหารนั้นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ
นายชวน กล่าวต่อว่า สิ่งที่จะแนะนำว่า เราจะหนีชะตากรรมเรื่องคดี ก็คือการไม่โกง ตนให้ความเป็นธรรมกับนายเศรษฐา เพราะอย่างน้อยท่านได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ ตรงไปตรงมา และไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักธุรกิจมาทำการเมือง เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ
ขออย่างเดียว อย่าทำธุรกิจเป็นการเมือง เอาผลประโยชน์ส่วนตัว พวกพ้องมาเกี่ยวข้องการเมือง ถ้าทำวิธีนี้ ไม่เพียงแต่กระทบต่อส่วนร่วม และประโยขน์ของบ้านเมืองเท่านั้น เพื่อนตนติดคุก 10 คน เพราะทำธุรกิจเป็นการเมือง หลายคนเป็นคนดี ไม่ควรเจอชะตากรรม แต่เพราะเกรงใจลูกพี่ ก็มีอันเป็นไปอย่างน่าเสียดาย บทเรียนเหล่านี้มีค่ายิ่งสำหรับนายกฯ คนที่ 30 ที่ดำเนินการภารกิจของบ้านเมืองต่อไปในอนาคต
“ขอให้กำลังใจคนที่ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แล้วท่านนายกรัฐมนตรีก็จะปลอดภัยเมื่อครบ 4 ปีหรือไม่ครบก็ตาม โดยไม่ต้องติดคุกอันเกิดจากการทุจริตไม่อยู่ในกลุ่มโคตรโกง โกงทั้งโคตร ขออวยพรให้ท่านประสบความสำเร็จ” นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายชวน อภิปรายเรื่องปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดตั้งแต่ปี 2544 ได้ถูกส.ส.พรรคเพื่อไทยประท้วงเป็นระยะ นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประท้วงว่า นี่เป็นการแถลงนโยบาย ขอให้พูดเรื่องนโยบาย ห้ามพูดความหลัง
ส่วนน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประท้วงว่า พูดจาส่อเสียดและไม่อยู่ในประเด็นที่อภิปรายเรื่องคำแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นมากว่า 20 ปีแล้ว ผู้อภิปรายพูดจาซ้ำไปซ้ำมา แต่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ก็วินิจฉัยให้นายชวนพูดต่อ เพราะอยู่ในประเด็น เป็นการทักท้วงเรื่องนโยบาย