ครูมานิตย์ ชี้ การขับ ‘หมออ๋อง’ ออกจากพรรค เป็นการฆ่านักการเมือง ขอผู้อยู่เบื้องหลังพรรคก้าวไกล อดทน ไม่กังวล เรื่องแบ่งกมธ. ย้ำไม่ใช่เรื่องใหญ่

เมื่อเวลา 10.03 น. วันที่ 18 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราฎร คนที่ 1 ที่อาจถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯว่า หากมติพรรคก้าวไกล ขับนายปดิพัทธ์ ออกเพื่อให้มาอยู่พรรคเป็นธรรม(ปธ.) ตนมองว่ามันยิ่งกว่าละคร และคิดว่าในอนาคตนายปดิพัทธ์ จะเหนื่อยในเวทีการเมืองต่อไป เนื่องจากเป็นรองประธานสภาฯ ที่ถูกขับออกจากพรรคหนึ่ง และมานั่งเป็นรองประธานสภาฯ ความสง่างามจะมีหรือไม่

เมื่อถามว่าการที่พรรคจะขับสส.ออกต้องมีมูลเหตุหรือแรงจูงใจอะไรหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า มันต้องขัดมติพรรคอย่างรุนแรง เช่น อภิปรายไม่ไว้วางใจ การโดนขับออกเป็นการทำบาปต่อนักการเมือง ถือเป็นการฆ่านักการเมือง ถ้าตนโดนขับออกจากพรรคเพื่อไทย ตนจะเลิกเล่นการเมืองเลย การขับออกต้องไปดูกติกาที่พรรคนั้น ๆ เขียน ฝากไปยังผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังพรรคก้าวไกล อย่าไปทำบาปกับอนาคตของน้อง ๆ พรรคก้าวไกลเลย ขอให้อดทน และอย่าฆ่าตัวตายวันนี้เลย

เมื่อถามว่าในประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตคือพรรคก้าวไกลขอให้นายปดิพัทธ์ ลาออก แต่ถ้าไม่ลาออกจะขอให้ขับออก เป็นเหตุผลที่เพียงพอหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ถ้านายปดิพัทธ์ ไม่ยอมลาออกจะขัดต่อรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ชัดเจนว่า พรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้าน จะมานั่งเป็นประธานและรองประธานสภาฯไม่ได้ ถือว่าหนักเข้าไปอีก

นายครูมานิตย์ กล่าวต่อว่า อย่าลืมว่าการที่นายปดิพัทธ์ได้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ก็มาจากพรรคเพื่อไทย 141 คนที่โหวตให้ แล้ววันนี้นายปดิพัทธ์ จะเลี่ยงบาลีไปอยู่พรรคเป็นธรรม ที่มีอยู่ 2 คน แล้วขึ้นมานั่งเป็นรองประธานสภาฯ ซึ่งต้องมีเรื่องจริยธรรมที่ต้องว่ากันต่อไป

เมื่อถามว่าแสดงว่านายปดิพัทธ์ อาจไม่ได้รับการยอมรับจากที่ในประชุมหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า อย่างน้อย ๆ ตนรับไม่ได้ ตนเคยคุยกับนายปฏิดิพัทธ์ว่า ทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ได้ดีพอสมควร แม้จะไม่มีประสบการณ์ในสภาฯ มามาก การที่นายปดิพัทธ์ ได้ขึ้นเป็นรองประธานสภาฯ ตนได้เป็นคนเลือกมาด้วย ฉะนั้น ต้องรักษาเกียรติคุณของคนเลือกด้วย ต้องคิดให้หนัก

เมื่อถามว่าตอนนี้แบ่งกรรมาธิการลงตัวแล้วหรือยัง นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ยังไม่จบ แต่คาดว่าจะจบลงด้วยดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่โต อย่าไปกังวลมาก ทุกอย่างที่เราคิด อย่าคิดว่าอะไรที่ต้องการแล้วจะได้ทั้งหมด และคาดว่าเรื่องกรรมาธิการจะจบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่จบ ก็จะจับฉลากเหมือนที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง เคยกล่าวไว้ หากยังจับฉลากไม่ได้อีก ให้โหวตไปเลย โดยงดใช้ข้อบังคับ ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบกันด้วยดี

เมื่อถามว่าที่ประชุมในวันนี้จะพูดคุยเรื่องกรรมาธิการหรือไม่ นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ไม่น่าจะคุยกันถึงขั้นนั้น เนื่องจากกรรมาธิการเป็นเรื่องของแต่ละพรรค ซึ่งปัญหาที่มีคือ พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่างได้ 10 เสียง และพรรคก้าวไกลได้เพิ่มมาอีก 1 เป็น 11 เสียง ตนเห็นว่าน้องๆพรรคก้าวไกลยังมีแผลเก่ามาคุยก็อาจจะจบยาก








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน