ศรีสุวรรณ มาแล้ว จ่อร้องป.ป.ช.สอบ หมออ๋อง ใช้งบหลวง หิ้ว ‘สส.’ ดูงานสิงคโปร์ เข้าข่ายผิดจริยธรรมนักการเมือง ซัดพฤติกรรมย้อนแย้ง ก่อนรับตำแหน่งประกาศกร้าวไม่ใช้เงินแผ่นดินทัวร์นอก

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.66 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ขอใช้งบประมาณจากสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 1.3 ล้านบาท เพื่อเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ โดยมี สส.พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยร่วมคณะเดินทางไปด้วยว่า

เรื่องนี้ตนจะไปร้องให้มีการตรวจสอบจริยธรรม ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบ เพราะจะอ้างว่า เป็นการขอไปตามระเบียบการขออนุญาตอย่างถูกต้องแล้ว แต่ประเด็นคือการใช้เงินภาษีประชาชนจำนวนมากไปใช้ อาจจะไม่คุ้มค่า ซึ่งการไปดูงานแค่นี้ไม่มีผลดีมากเมื่อเทียบกับเงินนับล้านบาท และการนำ สส.พรรคตัวเองเกือบทั้งหมด และมีสส.พรรคเพื่อไทย 1 คน ร่วมขบวนไปด้วย ทั้งที่สส.เหล่านั้นไม่ได้มีอำนาจในเชิงบริหาร ไม่มีหน้าที่ใดๆ ในการบริหารของรัฐสภา แม้จะดูงานได้ แต่ไม่สามารถนำมาปรับปรุงการบริหารของรัฐสภาได้

ดังนั้นการนำคนเหล่านี้ติดสอยห้อยตามไป และใช้จ่ายเงินภาษีประชาชนน่าจะเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ ดังนั้นการกระทำของหมออ๋องก็น่าจะเข้าข่ายความผิด หรือฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.ในการสอบสวน ไต่สวน เอาผิด ทั้งนี้ เบื้องต้นหลักฐานที่ตนมีเป็นหนังสือคำขออนุญาตเดินทางไปดูงานสิงคโปร์จำนวน 5-6 แผ่น เป็นรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งน่าจะครบองค์ประกอบทั้งหมด นอกเหนือจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย

เมื่อถามว่า จะไปร้องเรียนหน่วยงานอื่นให้ตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หากไปร้องเรียนที่รัฐสภา ก็อาจจะมีการลูบหน้าปะจมูกกัน ป.ป.ช.ถือว่า เป็นไม้เด็ดสุดแล้ว

“หมออ๋อง เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคก้าวไกลเคยรณรงค์เรื่องการไม่ใช้งบฯ แผ่นดินไปในการดูงานต่างประเทศ หรือทัวร์นอก แต่พอตัวเองเข้ามาสู่ตำแหน่งทางการบริหาร นิติบัญญัติ กลับทำในลักษณะตรงกันข้าม นโยบายการหาเสียงจึงเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งในตัวเอง ซึ่งเข้าข่ายเรื่องการฝ่าฝืนจริยธรรม” นายศรีสุวรรณ กล่าว

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา หมออ๋องมักถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการใช้งบประมาณหลายๆ เรื่อง เช่น เรื่องเลี้ยงหมูกระทะ และการไปดูงานสิงคโปร์ ควรมีมาตรการอะไรออกมาเพื่อตอบสังคมหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า หมออ๋องเป็นเด็กรุ่นใหม่ การคร่ำหวอด หรือเข้าใจในกฎระเบียบของราชการ อาจจะไม่เชี่ยวชาญ ไม่ถนัดมากนัก อาจจะใช้ความรู้สึกส่วนตัว หรือการเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้งหรือไม่ นี่ก็เป็นประเด็น ดังนั้นการที่บุคคลที่อาจจะไม่ช่ำชองในกฎระเบียบมากนัก จริงๆ ต้องมีทีมที่ปรึกษา ที่มีความแม่นในระเบียบ ข้อกฎหมายจำนวนพอสมควร ไม่ใช่คิดอะไร ทำอะไรแล้วก็ทำไปเลยโดยไม่คำนึงถึงกฎระเบียบของราชการ เพราะเงินแผ่นดินคือเงินภาษีประชาชน ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้อยู่แล้ว การเอาไปใช้ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ รังแต่จะก่อให้เกิดผลกระทบ หรือความผิดย้อนกลับมาสู่ตัวเองได้ ดังนั้นภาครัฐเองควรมีมาตรการในเรื่องนี้ ที่ชัดเจนโดยเฉพาะการกำหนดบทลงโทษของการใช้เงินที่ไม่คุ้มค่า สตง.ไม่ควรอยู่เฉยมองเหตุการณ์นี้ผ่านแล้วผ่านไป แต่ควรออกมาส่งสัญญาณว่า สิ่งใดทำได้ สิ่งใดทำไม่ได้ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ หรือตระหนักร่วมกัน

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนก็จะไม่ทิ้งที่จะไปร้องเรียนให้สตง.ตรวจสอบการใช้งบฯ 30 ล้านบาท ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจร่วมประชุมองค์การสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน