พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย และมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สิน คนแห่เข้าร่วมกันคึกคัก

วันที่ 23 ก.ย.2566 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการ “เผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย และมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สิน” จัดโดยมหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ ร่วมกับ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

โดยมี นายเสกสรร สุขแสง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายโฆษิต สุวินิจจิต ที่ปรึกษากรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสุจิตรา แก้วไกร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมด้วยผู้บริหารส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรมพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมพิธี

นอกจากนี้ยังมีร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต เทศบาลนครรังสิต ผศ.ดร.สิทธิพร ประวัติรุ่งเรือง อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ปัทมา รูปสุวรรณกุล รองอธิการบดีอาวุโส ให้การต้อนรับ ณ ห้องสัตตบงกช อาคาร 1 ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยประชาชนเข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 360 คน และเข้าร่วมโครงการผ่านระบบออนไลน์ Zoom จำนวนกว่า 400 คน

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย. ได้กล่าวถึงสถานการณ์ประการสำคัญของประเทศไทยที่กำลังเผชิญกับภาวะหนี้ครัวเรือน 90% ต่อจีดีพี ถือว่ามีความเปราะบางของภาคประชาชนและส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเศรษฐกิจ

อีกทั้งกรณีของหนี้สาธารณะของประเทศไทย จำนวน 10 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตของประเทศ รัฐบาลจึงได้ประกาศนโยบายเร่งด่วนแรก คือ การแก้ปัญหาหนี้สินสำหรับพี่น้องเกษตรกรตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เหมาะสม รวมถึงหนี้สินภาคประชาชนและที่แก้ไขครอบคลุมถึงหนี้สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ปัญหาส่วนหนึ่งแก้ได้ด้วยการสร้างเศรษฐกิจของประชาชนให้ดีขึ้นด้วยการพักชำระหนี้ เช่นเดียวกับโครงการที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

พร้อมทั้งกล่าวว่า เป้าประสงค์สูงสุดในการบัญญัติให้เกิดกฎหมายในประวัติศาสตร์มีเป้าประสงค์เดียว คือ การสร้างความเป็นธรรมให้กับปวงชน เราต้องการให้กฎหมายที่เกิดขึ้นสามารถคุ้มครองปกป้องทุกคน สามารถให้กฎหมายมีการใช้บังคับได้กับทุกคนด้วยความเสมอภาค โดยรัฐบาลปัจจุบันมีความกล้าหาญที่จะประกาศยกระดับหลักนิติธรรม หรือ Rule of Law ที่ว่าหลักนิติธรรมจะเป็นการแสดงให้เห็นว่าทั้งการออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายให้ความเป็นธรรมกับทุกคนหรืออาจกล่าวได้ว่า คนจะไม่ใช่กฎหมายตามอำเภอใจแต่ต้องใช้กฎหมายเป็นใหญ่

ประการสำคัญในเรื่องที่เป็นความทุกข์ของประชาชน คือ เรื่องหนี้สิน เราจะสร้างกฎหมายเพื่อการแก้ไขให้เกิดขึ้น อีกทั้งในวันนี้ต้องเพิ่มมิติการไกล่เกลี่ย คือ การสร้างความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ การสร้างความปรองดอง การสร้างสันติภาพบนความขัดแย้ง ซึ่งงานในวันนี้ถือเป็นงานที่สร้างความยุติธรรมตามความเป็นจริง และขอฝากข้อคิดเรื่องการไกล่เกลี่ยต้องไม่เอาเปรียบลูกหนี้

แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ การสร้างความเป็นธรรม ความยุติธรรม และความพึงพอใจให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ลูกหนี้ต้องกลับคืนสู่สังคมด้วยความปกติ ด้วยการคืนศักดิ์ศรีให้ลูกหนี้ ในส่วนของการให้ความรู้ด้านกฎหมายถือเป็นการติดอาวุธให้กับประชาชนให้ได้รับความรู้ ไม่ต้องถูกเอาเปรียบ ไม่ถูกรังแก มีศักดิ์ศรี ตลอดจนสามารถสร้างสรรค์สังคมและเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทภาคประชาชนเปิดใหม่ในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 12 ศูนย์ พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการการให้ความรู้ด้านกฎหมายและงานบริการให้ความช่วยเหลือประชาชนของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และเยี่ยมชมให้กำลังใจการไกล่เกลี่ยหนี้สินของประชาชนภายในงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน