จุรินทร์ ชี้รัฐบาลพักหนี้เกษตร 3 ปี แค่แปะยาแดง ข้องใจหากอยากอยู่ 4 ปี มีงบระยะยาวหรือไม่ มองทำประชามติ-สสร. ภาระหนัก เหตุใช้เงินกว่าหมื่นล้าน

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 27 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงมติครม. ให้มีการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลหาเสียงไว้ ไม่ทำไม่ได้ แต่มีหลายคนเคยวิจารณ์ว่าการพักหนี้ก็เหมือนยาแดง ประชาชนอยากเห็นการแก้ไขหนี้สินระยะยาว หากพักหนี้ระยะเวลา 3 ปี ถ้ารัฐบาลอยากอยู่ถึงปีที่ 4 จะทำอย่างไร

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เคยศึกษาว่าโครงการพักหนี้เกษตรกรที่ผ่านมา มีผู้ร่วมโครงการเป็นหนี้เพิ่มถึง 70% ดังนั้น รัฐบาลต้องเตรียมแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้า และต้องเตรียมงบไว้ในระยะยาว เพราะโครงการดังกล่าวเป็นการเอาเงินของคนทั้งประเทศมาชดเชยให้สถาบันการเงิน ทั้งนี้ ยังมีอีกการบ้านต่อไปของรัฐบาล คือโครงการพักหนี้ SME ซึ่งต้องติดตามต่อ

เมื่อถามว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันควรจะสานต่อโครงการประกันรายได้ ที่นายจุรินทร์ เคยริเริ่มไว้หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ต้องตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าโครงการประกันรายได้เป็นประโยชน์ ช่วยต่อลมหายใจให้เกษตรกรในเวลาพืชผลราคาตก แต่เป็นสิทธิของรัฐบาลชุดใหม่จะตัดสินใจ ตัวเองไม่มีอำนาจจะให้รัฐบาลสานต่อนโยบายนี้

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และมีหลักการชัดเจนว่าต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 รวมถึงหลักคิดในการแก้ไข จะนำรัฐธรรมนูญฉบับใดมาเป็นต้นแบบ ต้องรอบคอบ อย่าดูเพียงที่มาอย่างเดียว เนื้อหาก็สำคัญไม่น้อยกว่าที่มา เพราะรัฐธรรมนูญบังคับใช้ตามเนื้อหา ไม่ใช่ตามที่มา ต้องดูว่ารัฐธรรมนูญฉบับไหนบังคับใช้แล้วช่องโหวน้อยที่สุด สามาถปรับใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันได้ก็นำมาเป็นต้นแบบ หรือใช้ต้นแบบที่เป็นข้อดีจากรัฐธรรมนูญหลายๆ ฉบับ มารวมกัน

เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรที่ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอให้แก้มาตรา 256 ลดขั้นตอนการทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง เพื่อประหยัดงบประมาณ นายจุรินทร์ กล่าวว่า อยู่ที่รัฐบาล เพราะรัฐบาลเคยหาเสียงการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วนไว้

เมื่อดูจากแนวทางของประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้ว น่าจะตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จะทำให้กระบวนการยาวพอสมควร และไม่มีใครคาดคิดว่ารัฐบาลจะตั้งธงทำให้เสร็จภายใน 4 ปี ถ้าจัดทำใหม่ทั้งฉบับ รัฐบาลก็ต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการทำประชามติ ซึ่งใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนตัวไม่ได้คัดค้าน แต่รัฐบาลต้องตระหนักถึงภาระที่จะตามมา

ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนด รอจูนกันก่อน หากสมาชิกพรรคจูนเสร็จแล้ว ก็ประชุมกันได้ แต่ยืนยันได้ว่า จะไม่ให้เรื่องภายในพรรคกระทบต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือตรวจสอบรัฐบาล อย่างน้อยเท่าที่ตัวเองรักษาการหัวหน้าพรรคอยู่








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน