ปดิพัทธ์ เผยยังไม่เคาะเข้าสังกัดพรรคไหน ขอมีอุดมการณ์เดียวกัน ยันไม่ใช่นอมินี ‘ก้าวไกล’ ทุกพรรคมีศักดิ์ศรี ไม่สนเสียงวิจารณ์ สมคบคิดกอดตำแหน่งรองประธานสภาฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ก.ย.2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แถลงภายหลังพรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีมติขับออกจากพรรคว่า ตนตัดสินใจแจ้งกับคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล (กก.บห.) ชุดใหม่ ว่า ประสงค์จะทำหน้าที่ต่อในฐานะรองประธานสภาฯ
โดยมีเหตุผลประกอบการตัดสินใจคือ ต้องใช้วาระที่เหลือของสภาฯ นี้ ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับการทำงานของสภาฯ ให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพสูง และเป็นของประชาชนตามที่แถลงเอาไว้ และตนต้องการปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาฯ อย่างเป็นกลางต่อทุกพรรคการเมือง และประชาชนไม่ว่าจะสังกัดพรรคใดก็ตาม
ยืนยันว่าการเปลี่ยนต้นสังกัดจะไม่กระทบต่อหน้าที่ และแผนงานของตนในฐานะรองประธานสภาฯ แน่นอน มั่นใจว่าการทำหน้าที่ของตนจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลทุกข์สุขของชาวพิษณุโลกมากขึ้นด้วย
“ผมน้อมรับมติพรรคก้าวไกลที่ต้องการทำหน้าที่ฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ และตัดสินใจให้สมาชิกภาพของผมในฐานะสมาชิกพรรคยุติลง จากนี้ไปไม่ว่าผมจะไปสังกัดพรรคใด จะผลักดันการยกระดับการทำงานของสภาอย่างเต็มที่ตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้” นายปดิพัทธ์ กล่าว
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า การตัดสินใจของพรรคก้าวไกลที่ขับตนออกจากพรรค ไม่ใช่การตัดสินใจในระยะสั้น แต่พูดคุยกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว หลังจากนี้มีเวลาหาสังกัดใหม่ 30 วัน ซึ่งพรรคที่จะไปสังกัดต้องมีอุดมการณ์ทางการเมืองสอดคล้องกัน ไม่ข้ามขั้ว ไม่ไปอยู่พรรคที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ของตนได้ เพราะเราอยากเห็นการเมืองที่ดีที่ตรงไปตรงมาสร้างสรรค์ที่สนับสนุนระบบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดอยู่ที่ประชาชน
เมื่อถามว่าความรู้สึกตอนนี้ยังมีความเป็นพรรคก้าวไกลอยู่หรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ แต่ด้วยพฤตินัย ตนไม่ได้เกี่ยวกับพรรคก้าวไกลตั้งแต่รับหน้าที่รองประธานสภาฯแล้ว ฉะนั้นความรู้สึกก็ถูกเตรียมการมาตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อถามย้ำว่าในอนาคตหากเกิดการยุบสภา หรือครบวาระสภา มีโอกาสกลับไปอยู่พรรคก้าวไกลอีกหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นยังอีกนาน ช่วงเวลานี้ขอตัดสินใจให้ดีที่สุดก่อน
ต่อข้อถามว่ามีการเปรียบเทียบกับอดีตสส.บางคนในพรรคก้าวไกลสมัยที่แล้ว ซึ่งมีการกระทำผิดแต่ไม่ได้ขับออก นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ให้สมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนพรรคตัดสินใจ ตนไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ได้
เมื่อถามว่าหลายคนมองการถูกขับออกครั้งนี้ เป็นการสมคบคิดกันเพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯไว้ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ การที่ตนถูกขับออกครั้งนี้คิดว่าพรรคก้าวไกลก็ตัดสินใจลำบาก และรอบคอบ หากถามว่าสมคบคิดเพื่อประโยชน์ของใครหรือไม่ คงไม่ใช่ แต่ด้วยข้อจำกัดทางรัฐธรรมนูญ เราจำเป็นต้องหาทางที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้น ถ้าตนตัดสินใจยืนยันมติแบบนี้ ทางพรรคก้าวไกลก็ไม่มีโอกาสเลือกทางอื่น
เมื่อถามว่าได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับพรรคเป็นธรรม หรือพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ในเรื่องการย้ายพรรคบ้างหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ตนมีเวลา 30 วัน ค่อยๆคิด ตอนนี้ต้องการกลับไปที่พิษณุโลกก่อน ไปอยู่กับครอบครัว อยู่กับพื้นที่ และค่อยๆ ทำความเข้าใจ เรื่องของอนาคตทางการเมืองยังมีเวลาอยู่ 30 วัน
ต่อข้อถามว่ากังวลหรือไม่จะไม่ได้รับการยอมรับในสภาฯ ในฐานะรองประธานสภาฯ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ไม่กังวล ที่ผ่านมาพรรคชนะอันดับหนึ่งไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร หรือได้ประธานสภาฯ ถือเป็นเค้าลางของความไม่ปกติพอสมควร ตนไม่ได้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เชื่อว่าสส.ทุกคนเป็นมืออาชีพ มีวุฒิภาวะ ฉะนั้นสิ่งใดที่เป็นไปตามหลักการ ระเบียบข้อบังคับ ทุกคนต้องปฏิบัติตาม จึงไม่กังวลเรื่องเกมการเมือง หรือการกดดันใดๆ
เมื่อถามว่ามีการกดดันจากสส.รัฐบาลหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ไม่มี มีแต่ให้กำลังใจให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ดี
ต่อข้อถามถึงการมองกันว่าวิธีการแบบนี้เป็นการเมืองแบบเก่าที่พรรคก้าวไกลเคยกล่าวหาพรรคอื่นแต่กลับทำเสียเอง นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามพรรคก้าวไกล ตนไม่สามารถตอบแทนได้ ยืนยันว่าการตัดสินใจทุกอย่างต่อสาธารณะ ทุกคนมีสิทธิ์วิจารณ์ได้
เมื่อถามว่าหากไปอยู่พรรคอื่นอาจถูกมองว่าเป็นนอมินีพรรคก้าวไกล เหมือนที่มีการกล่าวหานายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นนอมินีพรรคเพื่อไทย นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า แบบนี้จะไม่เป็นธรรมกับพรรคอื่นๆ ตนคิดว่าแต่ละพรรคก็มีนโยบาย มีศักดิ์ศรี มีผู้นำของตัวเอง และวันนี้ตนไม่ได้เป็นผู้นำของพรรคใดเลย และตนจะเป็นสมาชิกพรรคไหนต้องให้เกียรติพรรคนั้นๆ ไม่มีการมองว่าเป็นพรรคนอมินีแน่
เมื่อถามว่าเมื่อต้องย้ายสังกัด ทีมงานที่มาจากพรรคก้าวไกลต้องเปลี่ยนด้วยหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ต้องขอเวลาดูข้อกฎหมาย และดูความเหมาะสมในแต่ละตำแหน่ง แต่คิดว่าคงต้องเปลี่ยนแปลง