พริษฐ์ เสนอ 3 ข้อถึงรัฐ ป้องกันเกิดเหตุซ้ำเหมือนคดีเด็ก 14 บุกยิงกลางพารากอน ทั้งเตือนภัยผ่านเอสเอ็มเอส-ครอบครองอาวุธปืน-ป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ต.ค.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่

โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือถึงปัญหาเหตุการณ์ เด็ก 14 ปีบุกยิงที่สยามพารากอน เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนขอใช้พื้นที่สภาแห่งนี้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บุกยิงที่สยามพารากอน และขอเสนอ 3 ด้านเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

1.ระบบแจ้งเตือนภัย ที่ในพื้นที่ไม่ได้รับการแจ้งเตือนผ่านเอสเอ็มเอสจากหน่วยงานรัฐ ต้องอาศัยการแจ้งเตือนภัยจากเอกชนหรือค้นหาข้อมูลกันเองในสื่อโซเชียล จึงขอหารือไปถึงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดแผนการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Cell Broadcast ของรัฐเพื่อส่งข้อความเข้าไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

2.การครอบครองอาวุธปืน แม้ปืนที่ถูกใช้จะเป็นปืนดัดแปลง แต่การที่ประเทศเรามีอัตราผู้เสียชีวิตจากอาชญากรรมปืนสูงเป็นอันดับที่ 3 ของเอเชีย ก็เป็นสัญญาณว่าเราจำเป็นต้องมาทบทวนเรื่องการครอบครองอาวุธทั้งระบบ จึงขอหารือผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้หาแนวทางปรับปรุงทั้งกฎหมายขออนุญาตปืนทั้งระบบให้ครอบครองประเภทมากขึ้น และปิดช่องทางการค้าขายปืนนอกระบบให้มีความรัดกุมมากขึ้น

3.ข้อมูลผู้ก่อเหตุและการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุเราจะเห็นการเผยแพร่และใบหน้าของผู้ก่อเหตุอย่างกว้างขวาง

“แม้ผู้เชี่ยวชาญและงานวิจัยจะชี้ชัดว่า การประโคมข่าวในลักษณะดังกล่าว อาจจะสุ่มเสี่ยงให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ จึงขอหารือไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สร้างความเข้าใจกับสังคมให้งดแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุเพื่อส่งสัญญาณไปทั่วประเทศว่าการกระทำอำมหิตต่อเพื่อนมนุษย์เช่นนี้ จะไม่มีวันทำให้เขาได้แสงหรือความสนใจจากใครสักคนแม้แต่นิดเดียว” นายพริษฐ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน