วุ่นแน่ วิปรัฐบาล จ่อเขี่ยทิ้งญัตติทำประชามติของก้าวไกล ดึงเรื่อง‘ลิง-ช้าง’แทรก

วิปรัฐบาล มีมติแทรกเรื่องน้ำ ดิน เรื่องลิง เรื่องช้าง เตะญัตติทำประชามติฝ่ายค้าน อ้างกก.ศึกษาประชามติฯ ทำงานไปไกลแล้ว โวสภาทำงานเยี่ยมให้เอบวก

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ต.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมพิจารณาวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 25 ต.ค.นี้ จะเลื่อนระเบียบวาระอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน เกี่ยวกับเรื่องน้ำ ดิน เรื่องลิง เรื่องช้าง ที่สร้างความเสียหายขึ้นมา

ส่วนญัตติของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับการทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น เห็นว่าขณะนี้รัฐบาลทำงานอยู่ โดยตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ

หากสภาบรรจุระเบียบดังกล่าวอาจขัดแย้งกับคณะทำงานของรัฐบาลได้ เนื่องจากผลการหารือที่เกิดขึ้นในสภาก็ยังไม่สามารถส่งถึง ครม.ได้ เพราะต้องผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาก่อน แต่ตอนนี้ ครม.ทำงานไปไกลพอสมควร และที่ผ่านมาได้เชิญตัวแทนพรรคก้าวไกลร่วมคณะทำงานด้วย แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงเห็นว่าควรทำญัตติอื่นมาพิจารณา คาดว่าไตรมาสแรกของปีใหม่ เรื่องการทำประชามติของคณะกรรมการฯ จะสำเร็จ

เมื่อถามว่าประสานไปยังวิปฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากเป็นญัตติแรกที่พรรคฝ่ายค้านเสนอขึ้นมา นายอดิศรกล่าวว่า วิปรัฐบาลวิเคราะห์อย่างรอบคอบแล้ว ว่าเรื่องนี้มีความขัดแย้งกัน เนื่องจากจะมีการทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่วิปรัฐบาลเห็นว่าเราไม่ควรไปแตะต้องหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ยากจะตกลงกันได้ ส่วนจะเป็นข้อถกเถียงกันในสภาหรือไม่นั้น การถกเถียงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสภาเป็นที่ถกเถียงกัน หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีการโหวต

เมื่อถามว่าวิปฝ่ายค้านจะมองเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า ฝ่ายค้านมองเป็นเกมการเมืองตลอด ที่ผ่านมาเรื่องเด็กไร้สัญชาติก็ไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ว่าคว่ำญัตติ ซึ่งความจริงมติดังกล่าวส่งไปที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ตนจึงเรียกร้องให้ฝ่ายค้านพิจารณาในการสื่อให้ตรงตามความเป็นจริง เพราะสภานี้ไม่ใช่ของฝ่ายค้านฝ่ายเดียว

นายอดิศร ประเมินถึงการทำงานของสภาที่จะปิดสมัยประชุมสัปดาห์หน้าว่า หากให้ประเมินการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ตนให้เอบวก แม้จะพลาดพลั้งสภาล่ม 1 ครั้ง เนื่องจากเราตั้งตัวไม่ทัน แต่ภายหลังฝ่ายรัฐบาลมีความสามัคคี อยู่ในที่ประชุมจนวินาทีสุดท้าย การจะล่มอย่างที่ผ่านมาคงไม่มี และขอชมเชยฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง เป็นตัวอย่างที่ดีให้ประชาชนว่าสภาเป็นที่แก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง ตนให้เอบวก เท่ากัน

เมื่อถามถึงการทำงานของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 นายอดิศร ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น แต่ขออวยพรให้ท่านทำหน้าที่ด้วยความปลอดภัย และสะดวก นำพาการประชุมของสภาไปสู่ความสำเร็จทุกประการ