โรม ยืนยัน มติก้าวไกล ตัดสิน 2 สส.ชายคุกคามทางเพศต่างกัน ไม่มีเรื่องเส้นสาย ย้ำวงประชุมสส.ใช้ดุลยพินิจของตัวเอง เชื่อดีที่สุดคือจบที่การลาออก
เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคก้าวไกลมีมติขับ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 ออกจากพรรค ขณะเดียวกันมีมติให้คาดโทษ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ปมคุกคามทางเพศ ซึ่งหลังจากพรรคมีมติดังกล่าว กระแสสังคมต้องการให้รับผิดชอบด้วยการลาออกจาก สส. ว่า ส่วนตัวเห็นว่าดีที่สุดคือจบที่การลาออกของตัวผู้ที่ถูกพิจารณา เพื่อแสดงสปิริตความรับผิดชอบ และเป็นผลดีกับทุกฝ่ายในเวลานี้
เท่าที่ฟังการให้สัมภาษณ์ของผู้ที่ถูกพิจารณา เขาอยากถูกพิสูจน์ในชั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างไรก็ตาม เมื่อกระบวนการถึงขั้นนี้ต้องมีการรับผิดชอบทางการเมืองตามมา จะเป็นการแสดงสปิริตอย่างหนึ่ง แต่เราคงตัดสินแทนเขาไม่ได้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่พรรคมีมติใน 2 กรณี ซึ่งมีบทลงโทษแตกต่างกันนั้น ไม่ใช่ประเด็นการช่วยเหลือ หรือใช้เส้นสาย เนื่องจากใน 2 กรณีที่เกิดขึ้น ไม่สามารถนำข้อเท็จจริงเทียบเคียงกันได้ อีกทั้งหลังการพิจารณาจากรายงานของคณะกรรมการวินัยของที่ประชุม สส. ซึ่งรับฟังนานกว่า 5 ชั่วโมง การตัดสินของ สส.จึงเป็นไปตามดุลยพินิจในประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่การช่วยเหลือกัน และไม่มีประเด็นการเมืองภายในพรรค
“เป็นการใช้ดุลยพินิจพิจารณาในข้อเท็จจริงต่างๆ และใช้เวลา 5 ชั่วโมง เพื่อรับฟัง แม้หลังมติพรรคที่ออกมาจะมีสส.บางคนไม่เห็นด้วย และใช้สัญลักษณ์เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นสีดำ ถือเป็นสิทธิแสดงความเห็นได้ ทั้งนี้ ก้าวไกลเป็นพรรคที่มีความหลากหลาย ประเด็นที่เกิดขึ้นผมไม่ห่วง และเป็นประเด็นในระยะยาวที่ต้องทำความเข้าใจ และรณรงค์ในเรื่องความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นทั้งภายในพรรค และสังคมภายนอก” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่ามติพรรคที่ออกมาใน 2 กรณี สส.ชายคุกคามทางเพศ ทำให้ถูกมองว่าเป็นการตัดสินที่สองมาตรฐาน และถูกเปรียบเทียบว่าเพราะ สส.ไม่มีเส้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ใช่เส้นสาย เพราะกระบวนการของพรรค คือเมื่อมีการพิจารณา และชี้ว่าเป็นความผิดชัดเจน การตัดสินว่าจะลงโทษสถานใดนั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมของสส.จะกำหนด
ตามรัฐธรรมนูญ และกระบวนการขับ สส.ออกจากสมาชิกพรรคต้องได้เสียง 2 ใน 3 เมื่อในกรณีที่เสียงไม่ถึง กรรมการบริหารพรรคต้องพิจารณาลงโทษสถานที่มีความหนักในลำดับถัดไป คือ การตัดสิทธิพึงมีในพรรค เช่น ห้ามใช้สัญลักษณ์ของพรรค หรือใช้ชื่อพรรคหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งที่จะไม่ได้รับ ทั้งนี้ ในส่วนของนายไชยพวาน ที่ถูกคาดโทษ เข้าใจว่าจะมีกระบวนการที่ต้องให้ขอโทษผู้เสียหายต่อไป หากไม่ขอโทษคงจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาขับออกต่อไป
