ชัยธวัช ฟาดแรง สส.ปูอัด แถลงไร้สำนึกยอมรับผิด ไม่ขอโทษอย่างจริงใจ ก่อความเสียหายซ้ำ เรียกประชุมด่วน กก.บห.ก้าวไกล ส่อขับพ้นพรรค

วันที่ 3 พ.ย.2566 นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ได้ฟังการแถลงของ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ เมื่อบ่ายวันนี้แล้ว และมีความเห็นส่วนตัว ดังนี้

(1) แม้คุณไชยามพวานจะแถลงว่าน้อมรับมติของพรรคและขอโทษ หากเห็นว่าการกระทำของตนเองถือเป็นการคุกคามทางเพศ แต่เมื่อพิจารณาสาระสำคัญในการแถลงแล้ว จะเห็นได้ว่า นายไชยามพวาน ไม่ได้สำนึกหรือยอมรับว่าพฤติการณ์ของตนนั้น เข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศแม้แต่น้อย และไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ

(2) นายไชยามพวานยังนำข้อความของผู้เสียหายรายที่ 1 มาแสดงต่อสาธารณะ โดยเจตนาจะแสดงให้เห็นว่า ตนเองกับผู้เสียหายมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังนั้น การล่วงเกินทางเพศที่มีต่อผู้เสียหายคนดังกล่าวตามที่ถูกกล่าวหา จึงเกิดขึ้นโดยความยินยอม หรืออย่างน้อยผู้เสียหายก็ไม่ได้แสดงการต่อต้านหรือความไม่พอใจใดๆ หลังเกิดเหตุ

(3) ต่อมา นายไชยามพวานได้แสดงข้อมูลเพื่อแสดงให้เห็นว่า การถ่ายรูปและคลิปของผู้เสียหายรายที่ 2 นั้น ไม่น่าจะถือเป็นการคุกคามทางเพศ

(4) สุดท้าย นายไชยามพวานยืนยันว่า ตนเองแตะเนื้อต้องตัวผู้อื่นเป็นประจำ การแตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายรายที่ 3 นั้นเป็นไปในฐานะเพื่อนร่วมงาน ไม่ได้มีเจตนาหรือเป้าประสงค์ทางเพศ

(5) ในฐานะกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่งของพรรคก้าวไกล ผมขอชี้แจงว่า กก.บห.ทราบข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งข้อกล่าวหาทั้งหมดของนายไชยามพวาน โดยนายไชยามพวานพยายามแสดงหลักฐานเพื่อสื่อว่าการล่วงเกินทางเพศต่อผู้เสียหายรายที่ 1 นั้น เกิดขึ้นโดยอีกฝ่ายไม่เคยแสดงอาการไม่ยินยอมใดๆ เลย

อย่างไรก็ตาม กก.บห.พิจารณาแล้วเห็นว่า การล่วงเกินทางเพศเกิดขึ้นโดยผู้เสียหายอยู่ในสภาพมึนเมา ย่อมไม่อยู่ในสถานะที่สามารถให้การยินยอมหรือไม่ยินยอมได้ นอกจากนี้ นายไชยามพวานยังมีพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไม่บริสุทธิ์ โดยการพาผู้เสียหายไปที่คอนโดมีเนียมของตนเอง

(6) แม้ความสัมพันธ์ระหว่างนายไชยามพวานกับผู้เสียหาย ก่อนและหลังเกิดเหตุการณ์ล่วงเกินทางเพศจะดูเป็นปกติหรือดีต่อกัน แต่ผู้เสียหายรายที่หนึ่งไม่เคยยินยอมให้นายไชยามพวานมีเพศสัมพันธ์ด้วยอีกเลย ซึ่งการมีเพศสัมพันธ์ย่อมต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย การมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายชายสามารถจะมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงได้ตามใจชอบ

นอกจากนี้ ความสัมพันธ์อันดีอาจเกิดจากความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ ส.ส. ของพรรคในอนาคต เมื่อนายไชยามพวานได้เป็น สส.แล้ว เขาได้ลดการมอบหมายงานให้ผู้เสียหายรายที่ 1 หลังจากที่มีผู้เสียหายรายที่ 2 เข้ามาเป็นทีมงานของตนเอง

(7) กรณีผู้เสียหายรายที่ 2 นั้น กก.บห.ไม่ได้พิจารณาความผิดจากข้อเท็จจริงเรื่องการถ่ายรูปและคลิปตามที่นายไชยามพวานกล่าวถึง เนื่องจากเห็นว่ารับฟังไม่ได้ว่า เป็นการคุกคามทางเพศจริง แต่กก.บห.พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า นอกจากจะมีพฤติการณ์แตะเนื้อต้องตัวผู้เสียหายแล้ว ขณะนายไชยามพวานเป็นสส. ยังได้ชักชวนผู้เสียหายรายที่ 2 ไปต่างจังหวัดสองต่อสอง 2 ครั้งโดยไม่เกี่ยวข้องกับงานในความรับผิดชอบของผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายปฏิเสธทั้ง 2 ครั้ง

(8) กรณีผู้เสียหายรายที่ 3 ผู้เสียหายเห็นว่านายไชยามพวาน มีพฤติกรรมพยายามเข้าหาและพูดคุยในลักษณะที่ทำให้รู้สึกถูกคุกคามทางเพศ จนทำให้ต้องขอลาออกจากทีมงานหลังเข้ามาทำงานได้ไม่ถึง 1 เดือน

(9) กก.บห.พิจารณาพฤติการณ์และข้อเท็จจริงทั้ง 3 รายประกอบกัน ซึ่งมีลักษณะต่อเนื่องและมีรูปแบบทำนองเดียวกัน จึงเห็นว่า นายไชยามพวานมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศต่อผู้เสียหายทั้ง 3 ราย และล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหาย 1 ราย โดยผู้เสียหายทั้งหมด มีสถานะเป็นอาสาสมัครหรือผู้ช่วยดำเนินงานของนายไชยามพวาน

ด้วยความที่นายไชยามพวาน มีอำนาจหรือสถานะเหนือกว่าผู้เสียหาย สามารถให้คุณให้โทษต่อผู้เสียหายได้ จึงส่งผลให้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายไชยามพวานกับผู้เสียหายในระยะเวลาหนึ่ง อาจเกิดจากเนื่องจากปัจจัยด้านสถานะการจ้างงาน ความมั่นคงทางรายได้ หรือความต้องการทำงานร่วมกับพรรคและ สส. ของพรรค

(10) ข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย เป็นอาสาสมัครและ/หรือผู้ช่วยดำเนินงานของ นายไชยามพวาน ยังส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อระบบอาสาสมัครของพรรค ทำให้การทำงานเป็นอาสาสมัครหรือทีมงานของพรรคไม่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งควรต้องปลอดจากการคุกคามหรือล่วงละเมิดทางเพศในทุกรูปแบบ

(11) ผมเห็นว่า การแถลงของนายไชยามพวานในวันนี้ นอกจากจะไม่สำนึกยอมรับผิดและขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจแล้ว ยังอาจเป็นการก่อความเสียหายซ้ำเติมต่อผู้ถูกกระทำทั้งสามรายอีกด้วย ดังนั้น หลังจากวันเสาร์นี้(4 พ.ย.) ผมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเรียกประชุมกก.บห. เพื่อให้พิจารณาว่านายไชยามพวาน กระทำการให้เป็นไปตามมติของกก.บห.หรือไม่

(12) หาก กก.บห.เห็นว่า นายไชยามพวานกระทำการขัดต่อมติของ กก.บห. ก็จะนำไปสู่กระบวนการทางวินัยจากฐานการฝ่าฝืนมติ กก.บห.ดังกล่าว อันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และหากมีความผิดจริง จะนำไปสู่การจัดประชุมร่วมระหว่าง กก.บห.กับ ส.ส. ของพรรค เพื่อมีมติให้ นายไชยามพวานพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล หรือไม่ ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน