พ.ต.อ.ทวี ควง บิ๊กหลวง เปิดประชุมกำหนดทิศทาง พัฒนาสำนักงาน ป.ป.ส. ยกระดับความเข้มข้นในการทำงาน มุ่งแก้ปัญหายาเสพติดบรรลุเป้าหมายรัฐบาล
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2566 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พร้อมทั้งมอบนโยบาย
โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ผู้บริหารสำนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมจำนวน 250 คน ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ย. ณ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
การจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมรับรู้ถึงสถานการณ์ และนำนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติที่ได้ผลเป็นรูปธรรม ภายใต้บทบาทภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ส. และการขับเคลื่อนการดำเนินงานโดยใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการทำงานและบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ตั้งไว้ ในการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดและปัญหาที่เกี่ยวเนื่องให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ภายใน 1 ปี
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โดยต้องดำเนินการอย่างรอบด้านและยึดประมวลกฎหมายยาเสพติดเป็นแนวทาง ด้วยการเปลี่ยนมุมมองในการแก้ปัญหา โดยยึดหลัก “ผู้ค้ายาคือผู้ร้าย ผู้เสพคือผู้ป่วย”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ดำเนินการป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ลดความต้องการในกลุ่มเสี่ยงและลดศักยภาพการผลิตยาเสพติด ยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ และสำคัญคือการสร้างความร่วมมือกับประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การทำงานในระยะเร่งด่วนที่ต้องการให้เห็นผลโดยเร็ว คือ ปฏิบัติการ Quick Win นำผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติดจำนวน 32,623 รายเข้ารับการรักษา และการกำหนดพื้นที่ควบคุมพิเศษ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติด 15 อำเภอ ใน 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย นครพนม ตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนต้องการเห็นสำนักงาน ป.ป.ส. มีการยกระดับขึ้น คือ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การยกระดับความเข้มข้นในการทำงาน การตรวจสอบงานของตนอยู่ตลอด การประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงประชาชน การประเมินผลเพื่อปรับปรุงงานอยู่เสมอ การพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านอัครราชทูตยาเสพติดที่ประจำอยู่ที่ประเทศต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อเป้าหมายสูงสุด คือ ความพึงพอใจจากประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการรับมอบนโยบายจาก รมว.ยุติธรรม และรับฟังการบรรยาย จะมีการระดมความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องต่อนโยบายของรัฐบาลและสถานการณ์
โดยจะมีการนำเสนอผลการระดมความคิดเห็นจากกลุ่มย่อย 12 กลุ่ม แบ่งตามด้านและเป้าหมายต่างๆ อาทิ การกำหนดพื้นที่สกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ตามมาตรา 5(10), การลดความเดือดร้อนประชาชนจากผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวช, การสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์, การสืบสวนปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เป็นต้น
