นายกฯ ประชุมหลายเรื่อง รับห่วงตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 โตแค่ 1.5 ชี้ทุกอย่างเลวร้ายกว่าที่คิด ลั่นต้องทำตัวเลขดีขึ้นในไตรมาสสุดท้าย ย้ำเงินดิจิทัล 1 หมื่น วิกฤตและจำเป็น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 พ.ย.2566 ที่กระทรวงการคลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ามอบนโยบายและติดตามงานกระทรวงการคลัง ถึงกรณีเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผอ.สำนักงบประมาณ เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ได้มีการรายงานเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจตามที่ได้เสนอข่าวไป สื่อมวลชนก็ทราบอยู่แล้วว่าตัวเลขออกมาเท่าไหร่
เมื่อถามว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “เป็นห่วงอย่างมาก เท่าที่ผมสอบถามเลขาธิการสภาพัฒน์ว่า เป็นอย่างไร ตัวเลขจีดีพีออกมา 1.5% ในไตรมาส 3 ซึ่งเลขาธิการสภาพัฒน์ บอกว่าท่านเองก็ตกใจเพราะนึกว่าความจริงแล้วจะเห็นเลข 2”
ผู้สื่อข่าวถามว่าเลขาฯสภาพัฒน์ ระบุถึงอุปสรรคหรือไม่ว่าปัญหามาจากอะไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็มีเหตุผลหลายอย่าง ทั้งเรื่องการใช้จ่าย การลงทุน และเรื่องการผลิตของโรงงาน ทุกอย่างก็เลวร้ายกว่าที่คิดไว้เยอะ
เมื่อถามว่าจะส่งผลถึงไตรมาสแรกในปีหน้าหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกอย่างส่งผลหมด แต่อย่าเพิ่งข้ามไปไตรมาสแรก เพราะไตรมาสที่ 4 ปีนี้ก็ยังเหลืออีกครึ่งไตรมาส เราต้องพยายามทำให้ตัวเลขดีขึ้น
ส่วนที่บอกว่าจะดีขึ้น เกี่ยวกับนโยบายเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เราพูดกันเยอะแล้ว และเราทราบว่าขั้นตอนต่อไปเป็นอย่างไร และตัวเลขบ่งบอกชัดเจนสำหรับตน ขอให้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจุดยืนของตนนั้นชัดเจน วิกฤตและจำเป็น
เมื่อถามว่าการมาประชุมที่กระทรวงการคลังวันนี้มีวาระพิเศษอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีเรื่องเยอะเลยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่ตนแถลงไปว่าประมาณปลายเดือน หรือต้นเดือนหน้าจะแถลงเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั้งหมด ต้องมาดูว่ามีกลุ่มไหนบ้างที่ยังขาดการดูแล วันนี้ก็มาพูดคุยกันแบบทำงานเป็นทีม
เมื่อถามว่าจะหารือกันเรื่องแหล่งเงินกู้ของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เอาเรื่องหนี้ก่อน ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต พูดชัดเจนแล้ว เรื่องแหล่งเงินกู้ก็ชัดเจนแล้วว่าจะออกเป็นพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการประชุมวันนี้จะพูดคุยเรื่องการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนบริหารจัดการเองระหว่างตนกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้มอบหมายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยไปแล้ว ซึ่งท่านเข้าใจและตระหนักดีถึงปัญหานี้ วันนี้คิดอยู่ว่าจะแถลงพร้อมกันกับเรื่องการบริหารหนี้ทั้งหมดหรือจะแยกแถลง
