เศรษฐา เผยอาจมีข่าวดีกับคนไทย ในช่วงอิสราเอลหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส ห่วงคนไทยกลับไปอิสราเอลอีกครั้ง ย้ำสถานการณ์ยังคงตึงเครียด

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 22 พ.ย.2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลว่า ด้านความมั่นคง โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) รายงานว่า จะมีการหยุดยิง 4 วัน ถือเป็นช่องว่างที่จะช่วยลำเลียงช่วยเหลือคนไทยออกมาได้ เบื้องต้นเป็นเด็กและสตรี แต่ทางเราพยายามต่อรองผ่านทางประเทศกาตาร์ และมีหลายประเทศช่วยอยู่ ซึ่งเราก็มั่นใจว่าน่าจะมีข่าวดีได้ ก็เป็นเรื่องการเตรียมความพร้อมตรงนี้

เมื่อถามว่าในช่วงหยุดยิง 4 วัน อาจจะมีการตัดสินใจของแรงงานบางส่วนที่อยู่ในอิสราเอล ที่อยากกลับเข้าประเทศ นายกฯ มีอะไรจะสื่อสารหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่ตนเรียนไปหลายครั้งแล้วว่า เป็นความโชคร้ายของประเทศไทยที่เศรษฐกิจเรายังไม่แข็งแรง ประชาชนต้องเสี่ยงชีวิตไปทำมาหากิน เอาเงินจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวที่นี่ ถึงแม้จะมีความเสี่ยงมากก็ตาม

ตนยังยืนยันว่าไม่เห็นด้วย ไม่อยากให้กลับเข้าไป เพราะยังมีความตึงเครียดในพื้นที่อยู่ เพราะเป็นการหยุดยิงแค่เพียงชั่วคราวตามคำเรียกร้องของต่างประเทศว่าอยากให้ตัวประกันได้ถูกปลดปล่อยออกมา ก็ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เห็นด้วยและไม่สนับสนุนให้ออกไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ใช้คำนี้ดีกว่า แต่เราก็บังคับไม่ได้ ถ้าเกิดมีความจำเป็นหรือตัดสินใจแล้วว่าจะออกไป ก็ขอให้ดูแลรักษาตัวเองให้ดีๆแล้วกัน ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่งจากรัฐบาล

เมื่อถามว่า นายกฯจะมีการพิจารณาเรื่องมาตรการเยียวยาสำหรับคนที่กลับเข้ามาแล้วออกไปใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลเตรียมจะมอบเงินเยียวยาให้กับคนกลุ่มนี้ นายกฯ กล่าวว่า มันก็ต้องคิด เพราะกลับไปแล้วกลับไปอีกก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าต้องมีการเยียวยาอีกหรือเปล่า

เมื่อถามอีกว่า หมายถึงจะมีการพิจารณาว่าให้หรือไม่ให้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ถ้าเป็นค่าเครื่องบินที่กลับมาในตอนนั้นซึ่งมีความตึงเครียดสูง ตนก็ยืนยันว่าความตึงเครียดไม่ได้ลดหย่อนลงไป แต่เรื่องการพักรบและการหยุดยิง น่าจะเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อให้มีการปลดปล่อยตัวประกันได้ ซึ่งมองในเชิงความมั่นคงการพักรบเพื่อที่จะมีการรบครั้งใหญ่ต่อไปก็ได้ อันนี้ไม่อยากจะไปคาดเดา

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. มอบนโยบายในการประชุมเอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์ และฝ่ายส่งเสริมการลงทุน ประจำปี 2566 ได้กำชับในเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้พูด เป็นการพูดนโยบายโดยรวมมากกว่า แต่ก็มีการพูดคุยกันในเรื่องของความตึงเครียดที่มีความตึงเครียดระหว่างประเทศเยอะ

การทำงานเชิงรุกถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เราต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เรื่องการที่เราใช้ทรัพยากรของประเทศชาติสูงสุด การประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทูตพาณิชย์ หรือเจ้าหน้าที่เกษตร หรือเจ้าหน้าที่บางประเทศที่มีการลงทุนข้ามประเทศ ทั้งเราไปและเขาไปด้วย ส่วนมากเราเน้นให้เขามาลงทุนในประเทศเรา แต่ปัจจุบันมีหลายภาคส่วนที่แข็งแกร่งและพร้อมไปลงทุนต่างประเทศ และเอาเงินกลับมาในประเทศ

อันนั้นขอให้เปลี่ยนวิธีการทำงานเปลี่ยนวิธีคิดบ้าง แต่ต้องคงไว้ซึ่งการรักษาเกียรติภูมิของประเทศ เรื่องการดูแลและให้เกียรติอย่างสูงสุดกับพระบรมวงศานุวงศ์ที่เดินทางไปต่างประเทศ และให้ดูแลเรื่องทรัพยากรของประเทศให้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องการดูแลผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ขอให้ดูแลอย่างเหมาะสม และเอาแรงงานแรงใจของเราไปทำงานขับเคลื่อนการทูตและเศรษฐกิจของประเทศให้เป็นหลัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน