บิ๊กทิน ไม่หนักใจปมเรือดำน้ำ ลั่นทำโดยสุจริต หากอยากได้โน้นนี่ก็คงลำบาก ซัด ‘วิโรจน์’ อยากโชว์พาว ลากเข้าสภา พร้อมส่งหนังสือเร่งอัยการสูงสุด ตอบกม. 3 ข้อสงสัย

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2566 ที่หน่วยฝึกทหารใหม่ ศูนย์การทหารราบ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ร.อ.อะดุง เอี่ยมพันธุ์ ผบ.ทร. ทำหนังสือสอบถามอัยการสูงสุดใน 3 ประเด็น ปัญหาเรือดำน้ำว่า ก็เป็นจริงอย่างที่ผบ.ทร.ระบุ วันนี้เราเดินหน้าแก้ไขปัญหาเพื่อหาทางออก แต่ทางออกที่กำลังแสวงหา ต้องมาฉุกคิดว่าในข้อกฎหมายทำได้มากน้อยเพียงใด ใครเป็นคนทำ ก่อนจะเดินไปข้างหน้า เราต้องเคลียร์ตรงนี้

จึงให้ทางกองทัพเรือทำหนังสือไปถึงสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อตอบมา 3 ข้อ เพื่อให้เรากำหนดทางออกที่ถูกต้อง ไม่ต้องมีใครพะวง

เมื่อถามว่าจะใช้เวลานานหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนจะขอเร่งไปทางสำนักงานอัยการสูงสุด เชื่อว่าคงไม่นาน ส่วนที่พรรคก้าวไกล อยากให้ใช้รัฐสภา หาทางออกเรื่องเรือดำน้ำนั้น เขาก็คิดแบบนั้นเพราะเป็นฝ่ายค้าน ตนก็เคยเป็น อะไรก็อยากลากเข้าสภา ถ้าไม่ได้เข้าสภา เขาก็ไม่ได้โชว์ เขาอยากมีส่วนร่วม เป็นเรื่องธรรมดา อยากมีส่วนเสนอแนะก็มองในแง่บวก ก็เป็นกุศลและเจตนาที่ดี แต่เราเป็นฝ่ายบริหาร ต้องดูว่าเข้า มาตรา 178 ตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่

ส่วนที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร บอกว่าตนอ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ถูก ตีความไม่แตก ซึ่งนายวิโรจน์ อ้างว่า เป็นสัญญาระหว่างประเทศต้องเข้าสภานั้น จากที่ตนพิจารณาเรื่องเรือดำน้ำ ไม่ใช่เรื่องง่ายและตนก็มีทีมศึกษา

“ถ้าบอกว่าเรื่องนี้ต้องเข้าสภาฯ ก็ต้องเข้าตั้งแต่ทำครั้งแรก รัฐบาลก่อนต้องเอาเข้าสภาฯ จะมาเอาเข้าอะไรตอนนี้ และตอนนั้นนายวิโรจน์ ก็เป็นฝ่ายค้านกับผม ตรวจสอบเขา แต่ไม่ได้เรียกร้องให้เขาเอาเข้าสภาฯ ทำไมไม่พูด ไม่ท้วงติง ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหมในขณะนั้นต้องนำเข้าสภา แต่ตอนนี้มาบอกให้สุทินเอาเข้าสภาฯ” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับเรือดำน้ำ เมื่อจีนไม่สามารถหาเครื่องยนต์ มาติดตั้งให้ได้ และกองทัพเรือก็ไปแก้ไขข้อตกลง ซึ่งกองทัพเรือเข้าใจว่ามีอำนาจทำ แต่วันนี้เมื่อมาดูกฎหมายจริงๆแล้ว กำกวมอยู่ ดังนั้น เพื่อความชัดเจนก็ให้สอบถามสำนักงานอัยการสูงสุดว่ากองทัพเรือมีอำนาจแก้ไขสัญญาหรือไม่ เป็นสาระสำคัญหรือไม่ ก็ต้องสอบถามอัยการสูงสุด

เมื่อถามว่าสะท้อนท่าทีว่ากองทัพเรือไม่อยากยกเลิกเรือดำน้ำหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่อยาก ตนว่าวันนี้กังวลว่าทำอะไรจะถูกต้องที่สุดมากกว่า แม้ได้เรือดำน้ำมา ก็ต้องถามว่าได้มาถูกหรือไม่ วันนี้ต้องมาดูอีกเช่นกันว่าที่ทำไปถูกต้องหรือไม่ เพราะไปแก้แล้ว มีสิทธิ์แก้หรือไม่ และถ้าไม่ได้เรือดำน้ำจะไปเอาอย่างอื่นตามกฎหมายทำได้หรือไม่

ตนมองว่ากองทัพเรือก็ต้องเดินให้รอบคอบ แต่ถามว่ากองทัพเรืออยากได้เรือดำน้ำหรือไม่ ก็อยากได้ แม้แต่ตนก็อยากได้เช่นกัน แต่เหตุสุดวิสัย เมื่อไม่ได้ ถึงมีอย่างวันนี้ ถ้าวันนี้สเปกเดิมมาจีนหาเครื่องยนต์มาติดตั้งได้ ก็เอาเลย ตนอยากได้ กองทัพเรือก็อยากได้

“ผมไม่หนักใจต่อปัญหาดังกล่าว เพราะทำโดยสุจริต ก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าคิดไม่สุจริต อยากมีโน้นมีนี่ ได้นั่นหรือได้นี่ ผมว่าอันนั้นแหละต้องคิดหนัก แต่อันนี้ไม่มีปัญหาเพราะมีกระบวนการขั้นตอน ที่จะเดินไปอยู่เราก็เดินตามนั้นก็จบ” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า จีนไม่อยากให้กองทัพเรือ เปลี่ยนเรือดำน้ำ เพราะเสี่ยงภาวะขาดทุน เพราะทำธุรกิจเขาก็ลงทุน ถ้าเปลี่ยนเขาก็สุ่มเสี่ยงขาดทุน ขณะที่กองทัพเรือก็อยากได้เรือดำน้ำ ทางจีนก็อยากให้เรือดำน้ำ เพราะหากให้อย่างอื่นโอกาสขาดทุนมีสูง แต่ ในส่วนของกองทัพเรือถ้าได้อย่างอื่นก็ไม่ตรงกับเป้าหมาย แต่ทุกอย่างต้องจำนนด้วยเหตุผลว่า เป็นเหตุที่ผิดพลาด จีนต้องยอมรับว่าเขาผิดพลาด ไปหาเครื่องยนต์ มาไม่ได้

เมื่อถามว่าเป็นความผิดพลาดตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วหรือไม่ที่ตัดสินใจซื้อเรือดำน้ำ นายสุทิน กล่าวว่า เราไม่อยากพูดเช่นนั้น การตัดสินใจซื้อเรือดำน้ำไม่ใช่การตัดสินใจพลาด แต่การซื้อ ทำข้อตกลงอย่างไร ได้พิจารณาหรือไม่ ว่าเครื่องยนต์ mtu 396 ของเยอรมัน สามารถจัดหามาได้จริง

เมื่อถามว่าเป็นความบกพร่องการลงนามกำหนดความต้องการตาม TOR ที่ไม่ระบุเครื่องยนต์ให้ชัดเจน นายสุทิน ระบุว่า ไม่อยากโทษว่าใครบกพร่อง เพราะมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องแก้ไขปัญหาอย่างไรแค่นั้น ก็รอสำนักงานอัยการสูงสุดตอบมา จะทำให้เดินหน้าได้ แบบมั่นใจกันทุกฝ่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน