“..ผู้กำกับใหม่ ผมมั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวังมากกว่า ผู้สมหวังในห้องนี้นะครับ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะว่ารู้สึกมันเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวังนะครับ..”
เศรษฐา ทวีสิน ยิงขาตัวเอง กลางที่ประชุม สส. เพื่อไทย “หลุด” โดยไม่ตั้งใจระหว่างพูดเรื่องแก้หนี้นอกระบบ
มองย้อนไป 2 เดือนเศษ เศรษฐา “รั่ว” หลายครั้งแล้ว ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ดุทีมงาน-ข้าราชการ คลิป “หมูเถื่อน” ว่อนออนไลน์ แทนที่จะเป็นเรื่องดีนายกฯ เอาจริงเอาจัง กลับถูกตำหนิว่าพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ถามจริง ใครเชื่อบ้างว่า ผู้ว่าฯ ททท.พูดเอง ให้ตำรวจจีนมาลาดตระเวนกับตำรวจไทย แต่มองได้ว่าอยากให้นักท่องเที่ยวจีนมาเยอะๆ ไม่ทันคิดรอบด้าน
เศรษฐาเป็นนายกฯ คนแรกที่ใช้ทวีต X ยังกับทรัมป์ ถ้าใช้แจ้งข่าวดีเช่น ตัวประกันไทยได้กลับบ้าน ก็น่า ชื่นใจ แต่กลับใช้รีทวีตโต้คำวิจารณ์ของสื่อ ขณะเดียวกันก็รีทวีต “นายแบกนางแบก”
มองมุมหนึ่งเหมือนตรงไปตรงมา แสดงความเห็นแสดงความรู้สึกทันที เมื่อมีคนวิจารณ์หรือคนชม แต่ทำไมนายกฯ ต้องหมกมุ่นขนาดนั้น บางคนจึงเห็นว่าไม่เหมาะเป็นพฤติกรรมผู้นำ
บางคนบอกว่ามือใหม่หัดขับ หรือยังปรับตัวไม่ได้ จากพ่อค้า จาก CEO เป็นนายกฯ แต่เรื่องใหญ่กว่าน่าจะเป็นความกดดัน
เป็นความกดดันที่ต้องการบรรลุเป้าให้เร็วที่สุด โดยไม่มีประสบการณ์ทั้งด้านบริหารการเมืองและบริหารราชการ เป็นความกดดันที่สืบเนื่องมาจากการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว เสียความชอบธรรม ต้นทุนติดลบ จึงต้องการกู้ภาพให้เร็วที่สุด
เศรษฐาทำ Subcontract เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย โดยรู้กันตั้งแต่ในมุ้งว่านี่คือตัวจริง เพื่อไทย ปูพรมแดง ให้เศรษฐาประกาศนโยบายเงินหมื่นดิจิทัล ตัวเลข 10,000 พื้นสีแดงอยู่ข้างหลัง โดยไม่คาดคิดว่า เกิดปฏิกิริยาแอนตี้เงียบ “มหาเศรษฐีเอางบมาแจก”
เป็นนายกฯ แม้มีแบ๊กเชี่ยวประสบการณ์อย่างหมอพรหมินทร์ ภูมิธรรม แต่เศรษฐาก็เหมือนมือใหม่ คนเดียวท่ามกลางรัฐมนตรีเพื่อไทย รัฐมนตรีพรรคร่วม เป็นที่รู้กันว่ารัฐมนตรีสายตรงเศรษฐามีแค่คนเดียว ที่เหลือมาตามโควตา แม้ได้รับความเห็นชอบจาก เศรษฐาในขั้นสุดท้าย
“นายกฯ ทำงานหนัก” กองเชียร์ชม แต่ในภาพ กลับกัน เหมือน “วันแมนโชว์” แบกทุกนโยบายจากเงินหมื่นดิจิทัลถึงซอฟต์เพาเวอร์ ยังต้องตอบคำถามสื่อเรื่องไล่ล่าเสี่ยแป้ง
มือใหม่หัดขับ คงใช่ แต่เป็นมือใหม่ที่เริ่มงานกับรัฐบาลต้นทุนติดลบ กระแสรุมกระหน่ำ ต้องผลักดันนโยบายที่โดนต่อต้านกว้างขวาง “กู้มาแจก” ถูกแซะถ้อยคำสวยหรู “ซอฟต์เพาเวอร์”
พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล 9 ปี ต้องอยู่กลางข้าราชการที่ขึ้นมาเป็นใหญ่สมัยประยุทธ์ รัฐมนตรี ส่วนใหญ่ก็มาตามโควตานาย ความชั่วไม่มีความดี ไม่ปรากฏ พอถูกกระแสสังคมกระหน่ำในแต่ละเรื่อง คนในพรรคก็ไม่มีความสามารถพอช่วยแก้ต่าง
มีคำถามน่าสนใจว่า เศรษฐามีกุนซืออยู่ข้างตัวไหม ไม่ใช่กุนซือรัฐบาลในภาพใหญ่อย่างภูมิธรรม หมอพรหมินทร์ แต่เป็นคนนั่งรถไปด้วย ช่วยคิด ช่วยดูทวีต บรีฟปัญหาเฉพาะหน้าตอบสื่อมวลชน ฯลฯ
มีคำถามอีกว่า ถ้ารัฐมนตรีทำงานไม่ได้ เงียบหาย เพื่อไทยพร้อมปรับไหม ปรับเมื่อไหร่ เพื่อให้เศรษฐา มีแบ๊กแน่นหนาขึ้น
เศรษฐาหลุด รั่ว ไม่ใช่ปัญหาส่วนบุคคล เป็นภาพสะท้อนความกดดันรัฐบาล เศรษฐาหวังเป็นนายกฯ อย่างสง่างาม แต่ได้เป็นนายกฯ ข้ามขั้ว เศรษฐาพยายามเอาชนะใจประชาชน แต่กระแสสังคมอยู่คนละด้าน พรรคเพื่อไทยสูญเสียแนวร่วมคนชั้นกลางประชา ธิปไตยที่เคยช่วยแก้ต่าง เหลือแต่ทีมงานนักการเมืองแถวสอง เศรษฐาก็จะยิ่งเป็นเป้าหนักขึ้นทุกวัน
เตรียมตัวให้ดี ตอนฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่าอารมณ์หลุดก็แล้วกัน
