ป.ป.ช. ไม่หนักใจสอบ นายกฯ ถูกร้องฝากตำรวจ ชี้ต้องแสวงหาพยานหลักฐาน 360 องศา ไม่รับฟังแค่ฝ่ายเดียว หากองค์ประกอบครบ ก็ผิดทั้งผู้ขอและผู้ให้

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองโฆษกสำนักงานป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ในการใช้อำนาจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กรณี พูดในที่ประชุม สส.พรรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา และหลุดปากพูดในลักษณะมีการฝากตำแหน่งผู้กำกับว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่ ป.ป.ช.จะต้องตรวจสอบ

โดยจะพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ปรากฏตามสื่อว่า เข้าเงื่อนไขความผิดตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ เรามีกรอบเวลาดำเนินการอยู่

ส่วนคลิปที่นายกฯพูดในที่ประชุม สส.เพื่อไทย นำมาประกอบการพิจารณาได้หรือไม่ นายภูเทพ กล่าวว่า ต้องรวบรวม ทั้งที่ปรากฏตามสื่อ ผู้หวังดีส่งให้ หรือ ข้อมูลนายศรีสุวรรณ ส่งมาให้วันนี้ จะนำมาประกอบทั้งหมด แต่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ ป.ป.ช. และเราส่งเจ้าหน้าที่ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้

สำหรับบทลงโทษสูงสุด กรณี สส.หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปก้าวก่ายการแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการ นายภูเทพ กล่าวว่ามี 2 ส่วน ถ้าเป็นเรื่องฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมร้ายแรง ก็จะพ้นจากตำแหน่ง และถูกตัดสิทธิ์ แต่ถ้าเป็นเรื่องการแทรกแซง ข้าราชการฝ่ายประจำที่มีการแต่งตั้ง ถือว่าเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขใด

เมื่อถามว่าตามกฎหมายผิดทั้งคนขอและคนให้ใช่หรือไม่ นายภูเทพ กล่าวว่า ถ้าครบเงื่อนไขทั้งหมด เมื่อถามย้ำว่าอะไรจะเป็นพยานหลักฐานที่บ่งชี้ความผิดได้ เพราะตอนนี้ปรากฏแค่คำพูด ที่สามารถโต้และแก้ข้อกล่าวหาได้ นายภูเทพกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ต้องดำเนินการว่าเรื่องมีที่มาที่ไปอย่างไร ต้องสอบสวนย้อนไป และขอข้อมูลไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในเรื่องการแต่งตั้งระดับผู้กำกับก็ได้ ต้องหาข้อเท็จจริงทั้งหมด 360 องศา ไม่ได้รับฟังแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

เมื่อถามว่า ป.ป.ช.กดดันหรือหนักใจหรือไม่ ที่ต้องสอบบุคคลสำคัญเป็นถึงนายกฯ นายภูเทพ กล่าวว่า มันเป็นงานประจำของ ป.ป.ช.อยู่แล้วทำมาตั้งแต่ปี 2542 ตรวจสอบนายกฯ มาตั้งหลายคน รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ ก็เป็นงานปกติของ ป.ป.ช.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน