“นายกฯเศรษฐา” ตรวจด่านคลองลึกฯ สั่งเดินหน้าวันสต็อปเซอร์วิส พัฒนาซอฟต์แวร์ รองรับ “การค้า-ขนส่ง-ปชช.ผ่านเข้าออก” มอบ บีโอไอ ขยายการลงทุน เชื่อม 3 จว. หนุนความเจริญสู่เมืองรอง
25 พ.ย. 66 – ที่ศูนย์ราชการสะดวก บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง รับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าการปฎิบัติงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก
ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ที่มีพ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออก จำนวนมาก เนื่องจากอยู่ใกล้ตลาดโรงเกลือ ที่เป็นตลาดการค้าชายแดนภาคตะวันออกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยพื้นที่เสนอให้มีการตั้งสถานกงสุล ที่เสียบเรียบ เพื่ออำนวยความสะดวก
นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายหลักของรัฐบาลต้องการส่งเสริมการค้าขายระหว่างประเทศ โดยอยากให้จ.สระแก้ว เป็นศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส เพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งการขนส่ง การค้า แต่ยังขาดอุปกรณ์ซอฟต์แวร์ และอื่นๆ ในการดำเนินงาน โดยการขนส่งและการค้าขายที่นี้ปีละกว่า 1 แสนล้านบาท มีปริมาณสูงมาก
ดังนั้นไม่ใช่แค่การอำนวยความสะดวกเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ถนน แต่เรื่องซอฟต์แวร์ และวันสต็อปเซอร์วิส เป็นเรื่องสำคัญ จึงอยากให้เร่งพัฒนาโดยให้ศุลกากร ไปพิจารณาโดยดูต้นแบบที่จ.หนองคาย และนำมาปรับใช้ที่จ.สระแก้ว ซึ่งตนเชื่อว่าจ.สระแก้ว มีศักยภาพ ดำเนินการได้
ส่วนเรื่องสินค้าที่นำเข้ามาจากกัมพูชา สามารถเข้ามาเสริมอุตสาหกรรมไฮเทคของประเทศไทยได้ เมื่อเราได้เปรียบดุลการค้า สามารถเอื้อเรื่องการค้าระหว่างกันได้ ให้พิจาณาการดำเนินงาน โดยต้องคิดถึงใจเขาใจเรา
จ.สระแก้ว เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีนักลงทุน มีความสนใจมาลงทุน และสามารถบริหารจัดการน้ำได้ดีพอสมควร ขณะที่การขนส่งสามารถส่งต่อไปที่ท่าเรือแหลมฉบังได้ภายใน 2 ชั่วโมง จึงมอบเลขาฯบีโอไอ พิจารณาเรื่องขยายขอบเขตการลงทุน ที่ จ.สระแก้ว ได้หรือไม่ ให้ต่อเนื่องจาก จ.ชลบุรี จ.ระยอง และ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อกระจายความเจริญไปสู่เมืองรอง และเชื่อว่า จ.สระแก้ว มีศักยภาพรองรับได้
นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของพื้นที่ ให้ตั้งกงสุลไทย ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา และการทำพาสสปอร์ต ที่บริเวณจุดผ่านแดนนี้ให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่ามีแนวคิดเรื่องนี้อย่างไร สามารถทำได้หรือไม่ อะไรที่ทำได้ ให้ทำก่อน เพราะประชาชนเข้าออกบริเวณนี้ปีละกว่า 10 ล้านคน น่าจะมีศูนย์กลางการทำพาสปอร์ตที่นี่ได้ เพื่ออำนวยความสะดวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับฟังบรรยายสรุป การปฎิบัติงาน นายเศรษฐา พร้อม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินไปบริเวณสะพานมิตรภาพ พบกับ นายอุม เรียแตร็ย ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อพูดคุยและถ่ายภาพร่วมกันอย่างเป็นกันเอง
โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นความร่วมมือของสองประเทศในความร่วมมือกัน เพราะทั้ง 2 ประเทศถือเป็นที่รักกันดี ดังนั้นเรื่องการค้าขายเป็นเรื่องสำคัญ การประชุมที่ฝ่ายไทยพยายามที่จะพัฒนาทั้ง ชายแดนกัมพูชาและไทย ยกระดับเรื่องการค้าขายให้ดีขึ้น
จึงอยากฝากผู้ว่าฯบันเตียเทียนเจีย เรื่องของการเข้าออกและต่างๆ นานาที่เกี่ยวกับศุลกากร การตรวจคนเข้าเมืองก็ขอให้ช่วยกันทำให้ดีขึ้น เพื่อความสะดวกในการค้าขาย
ขณะที่ นายอุม กล่าวว่า ได้มีการประชุมกับ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มอบนโยบายให้เร่งดำเนินการชาวไทยที่อยู่ในจังหวัดสระแก้วให้ถือบอร์ดดิ้งพาสไปถึงจังหวัดเสียมเรียบ