ชวลิต ไทยสร้างไทย เผยสภาฯชุดที่แล้ว เห็นเป็นเอกฉันท์ไม่นิรโทษความผิดคดีตาม ม.112 และคดีทุจริต แนะควรมีคณะทำงานคุยนอกรอบกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะได้ความจริง
วันที่ 7 ธ.ค.2566 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณีรัฐบาลมีความคิดจะตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณา ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมก่อนว่า จากการจัดทำรายงานการศึกษา เรื่อง แนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของประชาชนในชาติ ในสภาฯ ชุดที่ผ่านมา หาก ใช้การพิจารณาในกมธ.เป็นหลัก แทบจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ
แต่เมื่อมีการพูดคุย หารือกันนอกรอบทีละกลุ่ม จนทราบข้อมูลลึก ๆ ของแต่ละกลุ่ม แต่ละสี แต่ละฝ่าย แล้วจัดประชุมร่วมกันจนตกผลึกทางความคิด งานจึงจะเป็นผลสำเร็จ ซึ่งกมธ.กฎหมายชุดที่ผ่านมา ใช้ความเพียรพยายามพูดคุยนอกรอบกับกลุ่มคู่ขัดแย้งในอดีตมาจับมือกัน สร้างความปรองดอง สมานฉันท์ จนตกผลึกทางความคิด และรายงานของกมธ. ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ อย่างเป็นเอกฉันท์ เมื่อ 19 ส.ค.2563 แต่รัฐบาลที่ผ่านมาเก็บรายงานดังกล่าวเข้าลิ้นชัก
ข้อสรุปของรายงานของกมธ. คือ 1.นิรโทษกรรมคดีการเมือง คดีอาญาที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง 2.ยกเว้นไม่นิรโทษกรรมคดีความผิดตาม ม.112 และคดีทุจริต ทั้งนี้ กระบวนการพิจารณาคดีต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม
มีข้อสังเกตว่า ในรายงานของกมธ.ดังกล่าว ได้ยกเว้นไม่นิรโทษกรรมให้กับความผิดตาม ม.112 ซึ่งทุกพรรคการเมืองขณะนั้น ล้วนให้ความเห็นชอบ ปัจจุบัน พรรคหลักๆดังกล่าว ก็ได้รับเลือกตั้งเข้ามาอยู่ในสภาฯ ดังนั้น การคุยกันนอกรอบในทุกประเด็น น่าจะหาทางออกให้ประเทศของเราออกจากความขัดแย้งได้
นายชวลิต กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า ถ้าผู้ที่ถูกกล่าวหา หรือผู้ที่ต้องโทษในคดี ม.112 ได้สำนึกในการกระทำของตนว่าเป็นการล่วงละเมิด จะโดยตั้งใจ หรือมิได้ตั้งใจก็ตาม โดยเฉพาะเพื่อไม่ให้เวลาสู้คดีความทำลายหน้าที่การงานของตนและครอบครัว อาจขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจที่จะพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ที่สำคัญ ควรมีเงื่อนไขไม่กระทำความผิดซ้ำ
นอกจากนี้ อาจมีกรณีต้องพิจารณาว่า บางรายอาจถูกกลั่นแกล้งบ้าง ไม่เจตนาบ้าง เห็นว่าเป็นกรณีปลีกย่อยที่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ มั่นใจว่าคุณธรรม เมตตา และอภัย จะทำให้คนไทยออกจากความขัดแย้งที่มีมากือบ 20 ปี ไปสู่สังคมที่สงบสุข ร่วมมือกันพัฒนาชาติบ้านเมืองส่งต่อให้รุ่นลูก รุ่นหลานสืบไป
