อดีต สส.งูเห่าก้าวไกล ร้อง ‘ปดิพัทธ์’ พฤติกรรมส่อเลี่ยงเข้าพบ พนง.สอบสวน ปมคดีหมิ่นประมาท อ้างติดภารกิจสภา ท้าแสดงสปิริต‘คนเท่ากัน’ เว้นเอกสิทธิ์คุ้มครอง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ธ.ค.2566 ที่รัฐสภา นายเกษมสันต์ มีทิพย์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมประวิงเวลาเพื่อหลบเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 จาก กรณีที่นายเกษมสันต์ ได้แจ้งความดำเนินคดี นายปดิพัทธ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.2565

นายเกษมสันต์ กล่าวว่า นายปดิพัทธ์ มารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2566 พนักงานสอบสวนลงความเห็นสั่งฟ้อง ได้ติดต่อนัดให้นายปดิพัทธ์ ทางวาจาโดยการโทรศัพท์ ให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำตัวส่งอัยการพร้อมสำนวนการสอบสวน ทั้งนี้ ได้รับคำตอบจาก นายปดิพัทธ์ ว่าจะมาพบปลายเดือน พ.ย. 2566 โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจ

พนักงานสอบสวนประเมินว่าอาจไม่สามารถนำตัวในปดิพัทธ์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ทัน จึงทำหนังสือเชิญให้นายปดิพัทธ์ มาพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 20 พ.ย. 2566 แต่นายปดิพัทธ์ ก็ไม่ได้มาพบและไม่ได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวน จึงทำหนังสือเชิญครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 29 พ.ย. 2566 แต่นายปดิพัทธ์ ก็ไม่ได้มาพบ และได้ทำหนังสือขอเลื่อนไม่มีกำหนด

อย่างไรก็ตาม นายปดิพัทธ์ กลับให้ข่าวว่า ไม่ได้รับการติดต่อ และไม่ได้รับหนังสือเชิญจากพนักงานสอบสวน ซึ่งขัดแย้งกับเอกสารที่นายปดิพัทธ์ ทำขึ้นและส่งไปยังสถานีตำรวจ เพื่อขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวน

จากไทม์ไลน์ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ นายปดิพัทธ์ยังคงใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ และนายปดิพัทธ์มิได้ติดภารกิจเป็นตัวแทนของรัฐสภาในทุกวัน ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมประวิงเวลาเพื่อหลบเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่จะดำเนินคดีนายปดิพัทธ์ ได้ตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายก่อนที่นายปดิพัทธ์จะได้เอกสิทธิ์คุ้มครองในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้หมดลงในวันที่ 12 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา หลังจากนี้นายปดิพัทธ์ จะได้เอกสิทธิ์ในฐานะสมาชิกรัฐสภาคุ้มครองไปอีก 90 วัน จนกว่าจะมีการปิดประชุมสภาสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2

“ผมในฐานะผู้เสียหาย ได้อดทนรอกระบวนการทางกฎหมายเพื่อให้ความยุติธรรม มาปีกว่า คาดหวังว่านายปดิพัทธ์ จะรับผิดชอบในฐานะที่อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน แต่ก็ยังไม่แสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่นี้








Advertisement

จึงขออนุญาตทำหนังสือร้องเรียนถึงประธานสภาฯ เพื่อให้เห็นถึงพฤติกรรมประวิงเวลา เพื่อหลบเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของนายปดิพัทธ์ เพื่อจะได้ตักเตือนและให้นายปดิพัทธ์ รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง” นายเกษมสันต์ กล่าว

นายเกษมสันต์ ได้เปิดหลักฐานคลิปเสียงของ นายปดิพัทธ์ บนเวทีหาเสียง ที่ยืนยันว่า นายปดิพัทธ์ เป็นผู้เสนอให้ขับนายเกษมสันต์ ออกจากพรรค แต่ก็เปลี่ยนให้เป็นดองไว้ในพรรคก่อน

นายเกษมสันต์ กล่าวว่า คดีความที่ตนแจ้ง นายปดิพัทธ์ ไว้เมื่อปี 2565 นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เรียกตนเองว่า ‘งูเห่า’ ตามที่นายปดิพัทธ์เข้าใจ แต่เป็นความผิดฐานกล่าวหาใส่ร้ายโดยไม่มีมูลความจริง ซึ่งก็อาจตีความได้ว่ามีจุดประสงค์ทางการเมือง แต่ผู้ที่กระทำจะรู้ดีที่สุด

ทั้งนี้ ต้องการให้นายปดิพัทธ์ แสดงสปิริตของคนเท่ากัน และความโปร่งใส คือนายปดิพัทธ์ ควรยกเว้นเอกสิทธิ์คุ้มครองของตนเองแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนพลเมืองทั่วไป เพราะคดีของตนค้างอยู่ในขั้นตอนมานานแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน