ศักดิ์สยาม ดอดร่วมไต่สวนเอง คดีถือหุ้น ด้านศาลรธน.ยังไต่สวนไม่เสร็จ ‘ปกรณ์วุฒิ’ ร่วมฟัง เผยรอสืบพยานต่ออีกช่วงบ่าย 3 ปาก พร้อมพบพิรุธ แต่ไม่ฟันธงใช้นอมินีหรือไม่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.2566 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เริ่มการไต่สวนพยานบุคคล จำนวน 6 ปาก ในคดีที่ สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน 54 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมขณะนั้น ยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน

เป็นการกระทำต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่

ศาลได้รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยและมีคำสั่งให้นายศักดิ์สยาม หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.66 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งการไต่สวนพยานในวันนี้ ศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีและผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่เข้าร่วมรับฟังการไต่สวน โดยจัดระเบียบพื้นที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยเหมือนเช่นทุกครั้ง

รายงานข่าวว่า ในวันนี้นายศักดิ์สยาม ได้มาร่วมไต่สวนตนเองตั้งแต่เวลา 08.30 น.แล้ว อีกทั้งมี นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้ร้อง เข้าร่วมฟังการไต่สวนครั้งนี้ด้วย

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวภายหลังพักการไต่สวนว่า วันนี้สืบพยานทั้งหมด 6 ปาก ขณะนี้สืบพยานไปแล้วครึ่งทาง เหลืออีก 3 ปาก ก่อนหน้านี้ศาลได้ขอข้อมูลมาก่อนแล้ว วันนี้เป็นเพียงการสืบพยานแบบปากต่อปากเท่านั้น

ศาลจะถามคำถามแล้วก็ให้ตอบเลย และศาลได้ถามหลายประเด็นในเรื่องกิจกรรมของทั้ง 2 บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่า กิจกรรมเกิดอย่างไรบ้าง มีการเกิดสัญญากู้ยืมกันจริงหรือไม่ หรือยืมกันปากเปล่าและมีเงินเข้าออกจริงหรือไม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะเป็นหลักในการสืบพยานวันนี้

เมื่อถามว่าจากที่มีการสืบพยานในวันนี้คิดว่านายศักดิ์สยาม ยังมีการถือหุ้นในบริษัทหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ถ้าพูดตามตรง ทางฝั่งผู้ถูกร้อง ได้ยื่นชี้แจงมาแล้วรอบหนึ่ง ตนอ่านดูคร่าวๆ ยังมีบางจุดที่มีพิรุธ ซึ่งตนไม่สามารถฟันธงได้ว่าสรุปแล้วใช้นอมินีหรือไม่ หรือโอนหุ้นกันจริงๆ แต่มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยหลายอย่าง และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและนิติบุคคลต่างๆ ค่อนข้างพัวพัน และน่าสงสัยพอสมควร








Advertisement

จากการไต่สวนวันนี้ ยังไม่มีความชัดเจนมากเท่าไหร่ คงอาจต้องรอพยานอีก 3 ปากที่เหลือ เพราะอาจจะเป็นพยานที่มีความสำคัญต่อคดีนี้พอสมควร ส่วนพยานในวันนี้มีใครบ้างนั้น ตนไม่ขอระบุชื่อ แต่เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการทำงบการเงินในกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ พยานอีก 3 ปากที่เหลือศาลนัดไต่สวนในเวลา 13.30 น. เพื่อให้การไต่สวนครบทั้ง 6 คนในวันนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน