“ภูมิธรรม” เมิน นิด้าโพล “เศรษฐา-เพื่อไทย” เป็นรอง “พิธา-ก้าวไกล” ชี้ ให้วัดผลงานมากกว่าคะแนนความนิยม รับต้องปรับเรื่องการสื่อสารเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น

เมื่อเวลา 09.05 น. วันที่ 25 ธ.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพลที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 ขณะที่คะแนนความนิยมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และพรรคเพื่อไทย ตามมาเป็นอันดับ 2

โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้แปลกอะไร เพราะการสำรวจความคิดเห็นของโพลขึ้นอยู่กับว่าสำรวจจากสถาบันใดบ้าง และกลุ่มตัวอย่างเท่าไหร่ จากส่วนไหนบ้าง เราฟังผลโพลจากทุกฝ่ายที่อาจมีลักษณะไปในทิศทางเดียวกันหรือแตกต่างกัน แต่ที่สำคัญต้องดูปัญหาพื้นที่ของประชาชนโดยตรง

แต่จากการลงพื้นที่ก็พบว่าประชาชนยังสนับสนุนนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ส่วนผลโพลที่อยู่ในเมือง และเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาว ยอมรับว่านายพิธายังได้รับความนิยมอยู่ และที่จริงขึ้นอยู่กับการทำงาน ช่วงแรกรัฐบาลยุ่งอยู่กับการทำงานค่อนข้างมาก จากนั้นจึงไปดูว่าประชาชนรู้สึกและยอมรับอย่างไร เพราะคิดว่าความนิยมไม่เท่ากับผลงานที่ทำมา ผลงานที่ทำมา ไม่เท่ากับผลงานที่ทำให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงเวลา 3 เดือน ถือว่าเร็วไปในการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เร็วไปนิด เหมือนกับที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะรัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงาน ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลเข้ามาก็เจอแต่ปัญหาเยอะที่สั่งสมมาในช่วง 9-10 ปี จากการที่เป็นรัฐบาลรัฐประหาร

ตอนนี้เป็นการปูรากฐานการทำงาน และสิ่งสำคัญยังไม่มีงบลงทุนในการทำงาน ส่วนใหญ่เป็นงบประจำ เพราะเป็นช่วงรอยต่อ โดยร่างงบประมาณ 2567 กำลังจะเข้าในช่วงต้นปี 2567 เงินที่จะใช้ทำงานได้อยู่ในเดือนพ.ค. 2567 ที่ผ่านมาใช้การบริหารเงินด้วยการใช้ธนาคารของรัฐเข้ามาช่วย หยิบจับตรงนั้นมาโปะตรงนี้

วันนี้เป็นการสร้างรากฐานเพื่อเตรียมการไปสู่การแก้ปัญหาในอนาคตต่อไป และทุกคนก็จะได้เห็นว่ารัฐบาลจะทำงานอย่างไรหลังจากปีใหม่ โดยจะชี้แจงให้ทราบว่า 3 เดือนที่รัฐบาลนี้เข้ามาได้ปูรากฐานอะไรไปบ้าง เช่น ที่กระทรวงพาณิชย์มีการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ โดยไม่ได้ใช้เงินรัฐ








Advertisement

แต่ใช้การบริหารจัดการจากบริษัทต่างๆ มาช่วยกันลดกำไรลง เพื่อแก้ไขให้ประชาชน โดยยอมขาดทุนในช่วงนี้เพื่อเพิ่มกำลังซื้อ ให้ประชาชนแข็งแรง ก็จะเอื้อกับระบบเศรษฐกิจได้ดีกว่า เมื่อเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจทั้งระบบก็จะขับเคลื่อน

เมื่อถามว่าจะสามารถใช้ผลงานต่างๆ ดึงคะแนนกลับคืนมาได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผลงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นที่จะดึงความรู้สึกของประชาชน ถ้าเห็นว่าเราตั้งใจทำงานจริงและแก้ปัญหาได้ ประชาชนคงพึงพอใจ และเชื่อว่าเรามีความสามารถเหนือพรรคการเมืองอื่นในการลงไปพบปะประชาชนโดยตรง ยังเชื่อว่ามีเสียงสนับสนุนของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่แนบแน่นและแข็งแรง

เพียงแต่เราต้องปรับปรุงเรื่องการสื่อสารกับคนเมืองและเยาวชนให้มากขึ้น โดยใช้สื่อโซเชียลเข้ามา เพราะยอมรับว่าเราอาจจะยังไม่แข็งแรงในเรื่องนี้ เวลานี้เรามีหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครุ่นใหม่ เชื่อว่าจะสามารถทำงานปรับตัวเข้าถึงทุกกลุ่ม

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า โดยจะเอาข้อคิดเห็นและวิสัยทัศน์ของเราสื่อสารไปถึงประชาชนมากขึ้น เรามีเวลา 4 ปี หลังจาก 4 ปีไปแล้ว ประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่าใครพูด ใครทำ ใครสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้ดีที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน