โฆษกศาลยุติธรรม แจงไทม์ไลน์คดี ‘ยิ่งลักษณ์’ ศาลฎีกาใช้เวลาพิจารณาพิพากษาเพียง 1 ปี 5 เดือนเศษ ไม่ใช่ 12 ปีตามที่สื่อบางแห่งเสนอ
วันที่ 29 ธ.ค.2566 นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตามที่สื่อโทรทัศน์บางแห่ง นำเสนอข่าวและให้ความเห็นในทำนองที่ทำให้สาธารณชนอาจเข้าใจไปว่าการดำเนินคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ใช้เวลาเนิ่นนานทำให้มีผลเหมือน “การอำนวยความยุติธรรมที่ล่าช้าเป็นการปฏิเสธความยุติธรรม” ซึ่งได้ใช้คำในภาษาอังกฤษว่า “Justice delayed is justice denied.”
อันอาจทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ถึงการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ความจริงแล้วใช้เวลาพิจารณาพิพากษาคดีนี้เพียง 1 ปี 5 เดือนเศษเท่านั้น ไม่ได้ใช้เวลานานตามที่เป็นข่าว
คดีดังกล่าว เป็นคดีของศาลฎีกาฯ ซึ่งโจทก์ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2565 ศาลฎีกาฯ จึงได้รับไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม. 11/2565 และได้ดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยนัดพิจารณาครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2565 นัดตรวจพยานหลักฐานเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2566 และนัดไต่สวนเมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2566
เดิมคดีนี้นัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2566 แต่นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ ซึ่งเป็นองค์คณะอยู่ด้วยคนหนึ่งได้ถึงแก่กรรม ทำให้ต้องแต่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษาใหม่มาทดแทนและได้นัดฟังคำพิพากษาใหม่ และได้อ่านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2566
การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ จึงเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการกำหนดระยะเวลาการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลยุติธรรม พ.ศ.2566 กำหนดไว้แล้วว่าคดีที่ต้องทำการไต่สวนหรือสืบพยานในศาลฎีกา ศาลจะพิจารณาพิพากษาคดีให้เสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเริ่มไต่สวนหรือสืบพยาน แต่ศาลฯ พิพากษาคดีนี้เพียงภายใน 7 เดือนนับแต่วันเริ่มไต่สวน
ดังนั้น ขอชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อจะได้นำเสนอข่าวให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้เร่งรัดการพิจารณาพิพากษาให้คู่ความทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมภายในระยะเวลาอันรวดเร็วแล้ว
