ฝ่ายค้าน มีมติโหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบ 67 แน่นอน “ชัยธวัช” มั่นใจไม่มีแตกแถว เชื่อผ่านวาระ 1 ลั่น พร้อมติดตามต่อในชั้นกรรมาธิการ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วยพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวจุดยืนของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีมติไม่โหวตรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567

โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 67 โดยเวลาไม่เกิน 20.00 น. จะมีการลงมติ พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นตรงกันว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ได้สะท้อนว่า รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตสิ่งแวดล้อม PM 2.5 วิกฤตการศึกษา วิกฤตเด็กเกิดน้อย วิกฤตสังคมผู้สูงวัย

รัฐบาลจัดทำงบประมาณที่ไม่แตกต่างจากรัฐบาลเก่า ตั้งงบไม่ได้สัดส่วนกับความรุนแรงของปัญหา อีกทั้งยังพบการสอดไส้งบ ไม่ตรงปกไม่ตรงแผน การบรรจุงบที่ไม่ควรจะมี การจัดสรรงบที่ไม่เพียงพอต่อความจำเป็น ประมาณการรายได้ที่เกินจริง มุ่งใช้งบประมาณโดยไม่มองถึงอนาคต

นายชัยธวัช กล่าวว่า 3 วัน ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ฝ่ายค้านได้วิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลหลายอย่าง แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชี้แจงคำตอบที่ไม่ตรงกับคำถาม บางคำถามไม่มีคำตอบ

การชี้แจงก็ขาดวุฒิภาวะหรือให้ข้อมูลที่บิดเบือน ตอบคำถามชงกันเองกินกันเองในพรรคเดียวกัน รัฐมนตรีบางกระทรวงไม่ให้เกียรติเงินภาษีของประชาชนด้วยการลุกขึ้นชี้แจงหรือให้คำตอบแก่สภา พรรคฝ่ายค้านจึงมีมติว่า จะลงมติไม่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้

ด้าน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า งบปี 67 ไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศได้ เราในฐานะฝ่ายค้าน อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราสนับสนุน แต่ถ้าประชาชนไม่มีความสุขทำแล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น พวกเราไม่ขอสนับสนุน

พรรคประชาธิปัตย์มีมติว่า เราจะไม่รับหลักการ จึงขอฝากไปที่กรรมาธิการ (กมธ.) ให้นำไปแก้ไขและดูแล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี สส.ป่วยอยู่ 1 คน จึงจะทำให้เสียงโหวตหายไป 1 เสียง

ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า งบลงทุน 710,000 ล้านบาท ไปลงอยู่ 4 กระทรวง คือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งงบดังกล่าวเป็นงบผูกพันจากรัฐบาลที่แล้ว เป็นงบลงทุนที่เกิดในรัฐบาลนี้จริงๆ เพียง 200,000 กว่าล้านบาท

อีกทั้งการศึกษาของไทยก็ได้งบน้อย ตนจึงอนากให้นำเงินมาลงทุนในด้านการศึกษาและสาธารณสุข เราอยากเห็นการดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งเราไม่สามารถรับหลักการในครั้งนี้ได้

ขณะที่ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า การตัดสินใจของพรรคฝ่ายค้าน คือเสียงสะท้อนของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงจากการบริหารจัดการประเทศ 9 ปีที่ผ่านมา การตัดสินใจครั้งนี้ที่เราไม่รับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะเรายังไม่ไว้ใจการบริหารประเทศของนายกฯเศรษฐา เรายังไม่เห็นศักยภาพในการบริหารงบประมาณ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีบทลงโทษอย่างไร หากโหวตสวนมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มีบทลงโทษ เพราะเชื่อมั่นว่าอย่างไรก็จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งทุกพรรคมีเอกภาพ ไม่มีการแตกแถว

เมื่อถามว่าหากมีเสียงแตกไปสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบฯ จะทำอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งคิด เพราะตนมั่นใจว่าไม่มีการเสียงแตกแน่นอน และอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ได้บอกไว้ ถึงจะมี สส.ลาป่วย เราก็จะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน

“การลงมติพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นการแสดงถึงจุดยืน และท่าทีว่าเรามีความคิดเห็นอย่างไรต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีการเปลี่ยนแปลงนัยยะสำคัญ และกลางปีหน้าจะมีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 68 หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะไม่มีข้ออ้างในการจัดทำงบประมาณ” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่ามองการทำงานของฝ่ายค้านอย่างไรบ้างกับศึกงบประมาณครั้งแรก นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนได้ประสานงานกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เราจะนัดประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการกลางสัปดาห์นี้ เพื่อวางแผนงานและเป้าหมายร่วมกัน เพื่อให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นเอกภาพ ทำงานตามคาดหวังของประชาชนให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประเมินภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้านในครั้งนี้อย่างไร เพราะประชาชนดูเหมือนว่ายังทำงานไม่เต็มที่ นายชัยธวัช กล่าวว่า มีความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งหลายส่วนก็ชื่นชมว่าเป็นการอภิปรายที่มีฐานข้อมูลสร้างสรรค์ มีข้อวิพากษ์วิจารณ์และมีข้อเสนอแนะ

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า แต่หลายคนก็รู้สึกว่าไม่ได้ดุเดือด แต่อยากจะบอกกับประชาชนว่า เป็นการประชุมร่าง พ.ร.บ.ประมาณ ไว้ค่อยดูการอภิปรายที่ดุเดือดในอนาคต เพราะการอภิปรายงบ ควรจะให้ข้อมูลแก่ฝ่ายบริหาร และประชาชน ไม่ได้ดุเดือดเผ็ดร้อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน