“เพิ่มพูน” ยัน จัดสรรงบมุ่งแก้ “วิกฤตการศึกษา” ชี้ ถือเป็นความท้าทาย ศธ. ย้ำ ไม่นิ่งนอนใจ-มุ่งขยายโอกาส เล็งฟื้น “สอบเทียบ” วอนสภา โหวตหนุนร่างพ.ร.บ.งบ 67

เมื่อเวลา 16.05 น. วันที่ 5 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย

โดยพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงว่า เรื่องที่สมาชิกอภิปรายเป็นเรื่องที่เกิดก่อนรัฐบาลนี้จะเข้ามา แต่อย่างไรก็ตาม ทุกข้อห่วงใย ขอชี้แจงว่างบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ 5 ปีย้อนหลังมีแนวโน้มที่ลดลง แม้ในปีนี้รัฐบาลมีการปรับเพิ่มงบประมาณ 0.31% ถ้าดูโครงสร้างงบประมาณส่วนใหญ่จะไปอยู่ที่งบบุคลากรและเงินอุดหนุน รวมถึงค่าใช้จ่ายเงินลงทุนอีกส่วนหนึ่ง

รมว.ศึกษาการ กล่าวต่อว่า ที่สมาชิกบอกว่าเป็นปัญหา แต่ตนเชื่อว่ามันเป็นความท้าทายการศึกษาที่เราจะต้องประเมินร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเสมอภาคทางการศึกษา หรือผลคะแนน PISA ที่ลดลง ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก รวมถึงบุคลากรคุณภาพการศึกษาที่ไม่เพียงพอ

ที่สำคัญที่สุดคือความคาดหวังของสังคมต่อการศึกษาไทย ซึ่งรัฐบาลนำมาเป็นแนวคิดที่จะกำหนดงบประมาณในการแก้ไข ยืนยันว่าภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ กระทรวงการศึกษาไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่พยายามสร้างโอกาสการศึกษา

โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามา เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมกำหนดนโยบายเพื่อให้นักเรียนเข้าถึงการเรียนการสอนที่มีความรู้ที่เท่าเทียมกัน ภายใต้นโยบายเรียนดี มีความสุข เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และขยายการเรียนรู้ทุกช่วงวัย กระทรวงศึกษามีความตั้งใจที่จะนำระบบสอบเทียบกลับมาใช้อีกครั้ง

เราทราบดีถึงภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้นจากการศึกษา ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่าเปิดให้นำการศึกษาจากต่างประเทศมาเทียบได้ เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการศึกษา ขณะเดียวกันยังจัดให้มีการอัพสกิล-รีสกิล ควบคู่กัน

“ผมจึงมีความเชื่อมั่นว่านโยบายการศึกษาตามที่มีการแถลงต่อสภาฯ จะช่วยสร้างโอกาสความเสมอภาคทุกช่วงวัย และมีความมุ่งมั่นที่จะทำตามนโยบายที่เสนอไว้ จึงขอให้สมาชิกสนับสนุนงบประมาณ 2567 เพื่อให้กระทรวงสามารถผลักดันนโยบาย เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบบการศึกษาต่อไป” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน