เฉลิมชัย ยัน ‘เฮียเก้า’ ไม่ใช่น้องคนละแม่ คดีหมูเถื่อน เป็นคนสั่งสอบเองสมัยเป็น รมว.เกษตรฯ ลั่นใครทำผิดก็ต้องรับโทษ ไม่ปกป้อง ไม่เคยรับเงินสกปรก ขออย่าเอาการเมืองมาโยง

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2567 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายจับขบวนการนำเข้าเนื้อหมูเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และนำออกจำหน่ายตามท้องตลาด ซึ่งรวมถึง นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย ที่มีรายงานว่าเป็นน้องชายต่างมารดาของนายเฉลิมชัยด้วย ว่า ข่าวที่ว่านายหลี่ เซิ่งเจียว เป็นพี่น้องต่างมารดากับตน เป็นเรื่องเท็จ บิดาของตนอยู่ประเทศไทยมานาน 80 กว่าปี ไม่เคยกลับไปประเทศจีนอีกเลย แล้วจะไปมีลูกที่จีนได้อย่างไร

“เป็นกรณีของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนทั่วไปที่มีญาติอยู่ในจีน และญาติชาวจีนก็มาทำธุรกิจในไทยได้ ถ้าเขาทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย นอกจากนี้ ผมไม่รู้จักบ้านนายหลี่ ไม่เคยไปบ้านและที่ทำงานของเขา” นายเฉลิมชัย กล่าว

นายเฉลิมชัย กล่าว่า ส่วนที่เคยเจอกันในงานนั้น เนื่องจากตนได้รับเชิญไปร่วมงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนักธุรกิจและข้าราชการมาร่วมงานจำนวนมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้ได้ทั้งหมดว่าใครทำอะไรอย่างไรบ้าง

เมื่อถามถึงกรณีบุตรชายนายหลี่ คือ นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ซึ่งเป็นนามสกุลเดียวกับ นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ พี่ชายนายเฉลิมชัย และนายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ หลานชายของนายเฉลิมชัยนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนรู้แค่ว่ามาขอใช้นามสกุล แต่ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้

นายเฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า ชีวิตของตนไม่เคยเอื้อผลประโยชน์ให้คนพวกนี้ ไม่เคยรับเงินสกปรกทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตนเกลียดการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้น ถ้าเป็นการกระทำความผิดของใคร บุคคลนั้นต้องรับโทษและเข้าสู่กระบวนยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาล ไม่มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้น ตนไม่เคยปกป้องคนที่ทำผิด บอกกับคนใกล้ชิดและข้าราชการแล้วว่าถ้ามีใครทำอะไรผิดกฎหมาย ตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือปกป้องเด็ดขาด

“ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าคนทำผิด เป็นญาติหรือคนสนิทของผม เขาก็ต้องรับโทษ ผมไม่ปกป้องอยู่แล้ว ขอให้เอาความจริงมาพูดกัน อย่าเอาประเด็นทางการเมืองมาโยง มันไม่มีประโยชน์” อดีตรมว.เกษตรฯ กล่าวและว่า

วันนี้การที่เรารู้จักใครสักคน มันไม่มีทางจะรู้ได้หมดว่าแต่ละคนทำอะไรบ้าง แม้กระทั่งญาติพี่น้อง บางคนอยู่บ้านเดียวกัน ยังไม่รู้ว่าทำธุรกิจอะไรบ้าง ฉะนั้น ใครทำอะไรไป ต้องรับผลของการกระทำ ถ้าไม่ได้ทำผิดก็ต้องต่อสู้คดี แต่ถ้าทำผิดก็ต้องรับโทษ ขอฝากบอกถึงทุกคน ขอให้เชื่อเถอะว่ากฎแห่งกรรมมีจริง

นายเฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า สามารถชี้แจงทุกอย่าง และสมัยเป็นรมว.เกษตรฯ ตอนที่ปรากฏข่าวพบการลักลอบนำเข้าเนื้อหมู ตนได้สั่งการอธิบดีกรมปศุสัตว์ว่า ห้ามปล่อยเนื้อหมูเหล่านั้นออกจากท่าเรือหรือสถานที่ต่างๆ ต้องไม่มีการเคลียร์หรือยินยอมให้นำออกมา ถ้านำเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

คำสั่งนี้ของตนจึงเป็นที่มาการอายัดเนื้อหมู 100 กว่าตู้ สามารถสอบถามเรื่องคำสั่งนี้จากข้าราชการกระทรวงได้เลย ขณะที่ทางกระทรวงได้จับกุม อายัด และทำลายเนื้อหมูเถื่อนแล้ว ส่วนจะมีข้าราชการคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องว่ากันตามกระบวนการ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตน ตอนนี้ให้ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ถ้ามีใครมาทำอะไรให้ตนได้รับความเสียหาย ก็จะดำเนินตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน