‘ก้าวไกล’ จี้ถามงบราชการลับ เฉียด 500 ล้าน ใช้ภารกิจอะไร ‘ปลัดกลาโหม’ แจงยิบ ลั่น กองทัพปรับตัวตามยุคสมัย ยัน จะใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 198,562.9 ล้านบาท

โดยนายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. ได้ตั้งคำถามถึงงบพิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบัน เปรียบเทียบงบประมาณปี 2566-2567 ที่งบส่วนนี้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,449 ล้านบาท เป็น 1,843 ล้านบาท หรือ 27.18 % โดยเฉพาะกองทัพเรือ ที่เพิ่มจาก 45 ล้านบาท เป็น 395 ล้านบาท หรือกว่า 769% และกองทัพอากาศ เพิ่มจาก 35 ล้านบาท เป็น 65 ล้านบาท หรือ 81 % จึงขอถามว่าเพิ่มขึ้นมาอย่างไรบ้าง

นายชยพล ยังได้ถามถึงรายละเอียดงบประมาณและการดำเนินการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเข้าใจ เพื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมทั้งเรื่องงบราชการลับที่มีการขอเท่าเดิมไปเรื่อยๆ มีการใช้งานอย่างไรบ้าง เพราะงบประมาณปี 2566-2567 เท่ากัน 469 ล้านบาท กมธ.จะรับทราบได้หรือไม่ เพราะทางเหล่าทัพจะชี้แจงว่าเป็นชั้นความลับ แต่เป็นงบที่เรามองไม่เห็น จึงอยากให้กองทัพชี้แจงเรื่องนี้

นอกจากนี้ นายชยพล ถามเรื่องการตัดลดงบประมาณในส่วนตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นมายกแผงทั้งรุ่น รวมถึงขอระเบียบประกาศการใช้รถประจำตำแหน่และงบประมาณย้อนหลัง 3 ปี และรายละเอียดการลดจำนวนนายพล ไม่ใช่แค่เพียงลดจำนวนนักเรียนเตรียมทหารเพื่อรอเวลานายพลดลดลงไป เพราะตนมองว่าควรจะปรับลดได้เลย

ด้าน พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงงบราชการลับว่า เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2547 ผ่าน 4 ภารกิจ ด้านความมั่นคงและการป้องกันราชอาณาจักร ภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภารกิจด้านข่าว และภารกิจอื่นที่มีลักษณะปกปิด เพื่อประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือโดยสภาพแห่งเทคโนโลยี ซึ่งงบส่วนนี้ได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเรื่องรถประจำตำแหน่งยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ ปี 2523 ที่กำหนดรถราชการใช้กับตำแหน่งใดบ้าง ส่วนหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนแบบเหมาจ่ายยึดตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2457

ส่วนงบประมาณพิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบัน หน่วยทหารกระจัดกระจายทั่วประเทศ มีพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง ตั้งอยู่ตามจังหวัดอำเภอของแต่ละเหล่าทัพ เหมือนกับพื้นที่บรรเทาสาธารณภัยที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชน








Advertisement

ดังนั้น มีความจำเป็นในเรื่องงบประมาณที่พิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบัน จะต้องมีทุกหน่วยงาน และสำนักงบประมาณที่ตั้งงบ ไม่ให้ใช้งบกลาง ให้ตั้งงบตัวเอง จึงเป็นที่มาของงบปีนี้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งงบพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน มีสัดส่วน 0.93% ของงบกระทรวงกลาโหมทั้งหมด

พล.อ.สนิธชนก กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ได้ให้กรมพระธรรมนูญดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลังของกระทรวงกลาโหม ซึ่งขัดกับกฎหมายใหม่ที่ออกมา โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการ

“กระทรวงกลาโหม ยืนยันว่าได้ปรับตัวตามยุคสมัย ตามเหตุการณ์ ตามภัยคุกคามมาโดยตลอด ไม่ได้ปล่อยให้ล้าหลัง และจะใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ากับประเทศชาติ และตระหนักอยู่ตลอดว่า เม็ดเงินมาจากภาษีของราษฎร” พล.อ.สนิธชนก กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน