พิชิต ชี้ยังเร็วเกินไปเสนอแนะ ดิจิทัลวอลเล็ต เหตุยังอยู่ในขั้นตอน วอนผู้มีอำนาจเหลียวตามองประชาชน รอจังหวะเหมาะค่อยให้ความเห็น

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2567 นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ข้อเสนอแนะ ที่มาไม่ถูกจังหวะ” ว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต โดยกล่าวอ้างว่าเป็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อคณะรัฐมนตรี ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 32

ต่อมานายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.ชี้แจงว่า ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่มีความเห็นใดๆ เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว เพราะต้องรอคณะกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละท่านส่งความเห็นสรุปกลับมา ก่อนจะมีมติและส่งความเห็นไปยังรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ร่างเอกสารที่เกี่ยวกับข้อเสนอแนะโครงการเติมเงิน 10,000 บาทที่เผยแพร่ออกมานั้น มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงช่วงเวลาความเหมาะสมต่อข้อเสนอแนะว่า ถูกจังหวะหรือไม่ เพราะโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นหนึ่งในโครงการที่นายกฯ แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย.66

ต่อมา ครม.มีมติเมื่อวันที่ 3 ต.ค.66 เห็นชอบในหลักการ แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินฯ เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์ และแนวทางการดำเนินโครงการฯ หลักเกณฑ์และเงื่อนไข และแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ เพื่อเสนอต่อครม.

ซึ่งคณะกรรมการนโยบายฯ กำลังพิจารณาแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ดำเนินโครงการฯ ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะต้องพิจารณาข้อเท็จจริง ความเห็น หรือข้อสังเกตของกรรมการ รวมทั้งข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบและรอบด้านก่อน ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นไว้

นายพิชิต ระบุต่อว่า เมื่อคณะกรรมการนโยบายฯ พิจารณาเสร็จ ต้องเสนอครม. เพื่อพิจารณา หากครม.เห็นชอบ ยังมีขั้นตอนต่างๆ ที่จะเสนอร่างพ.ร.บ.กู้เงิน ต่อสภาฯ เพื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 133 อีกเมื่อร่างพ.ร.บ.กู้เงิน เข้าสู่สภาฯ ต้องผ่านการพิจารณาของ สส.และสว. แล้วยังมีกระบวนการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพ.ร.บ.กู้เงิน จากศาลรัฐธรรมนูญอีก

ท้ายสุดหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพ.ร.บ.กู้เงินไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะเข้าประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย และจะทำให้กระทรวงการคลังก็จะมีอำนาจกู้เงินได้

นายพิชิต ระบุว่า กระบวนการต่างๆ เป็นไปตามกฎหมาย เป็นกระบวนการตรวจสอบตามครรลองในวิถีทางของประชาธิปไตยที่รัฐบาลได้ทำบนพื้นฐานโดยสุจริต ตามหลักการของรัฐธรรมนูญ ไม่มีเจตนาซ่อนเร้นหรือแอบแฝง เพื่อหาทางลงตามที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์ เพราะรัฐบาลเห็นว่าโครงการดังกล่าว มีความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือประชาชนครอบคลุมมากกว่า 50 ล้านคน โดยยังมีประชาชนอีกมาก คงเฝ้ารอโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่

แม้ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงการของรัฐบาลที่ภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการตรวจสอบอยู่ เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยุติ ไม่ควรสมมติฐานหรือคาดหมายล่วงหน้าในสถานการณ์ที่ไกลเกินกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อปัจจุบันโครงการ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายฯ ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ เพื่อกู้เงิน

“การที่หลายฝ่ายเร่งรีบให้ข้อเสนอแนะต่อโครงการ จึงอาจเร็วไป ไม่ถูกจังหวะเท่าที่ควร และอาจกลายเป็นอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงได้แต่วิงวอนผู้มีอำนาจ โปรดเหลียวตามองดูประชาชน และรอดูจังหวะที่เหมาะสมดีกว่าไหม” นายพิชิต ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน