ภูมิธรรม ยินดี ‘พิธา’ คัมแบ็กสส.ฝ่ายค้าน เมินกระทบเสียงสนับสนุนรัฐบาล ย้ำทำงานการเมืองแบบใหม่ ต้องไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 ม.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยความเป็นสมาชิกภาพสส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่สิ้นสุดลง กรณีถือหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)ว่า ขอแสดงความดีใจด้วยที่โชคดี มีโอกาสได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯอีกครั้ง ไม่ส่งผลกระทบรัฐบาล เพราะเป็นคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งยุติแล้วและคำตัดสินผูกพันทุกองค์กร

ฉะนั้น ทุกอย่างก็ต้องช่วยและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศ ถึงแม้ตอนนี้จะถกเถียงกันว่าประเทศวิกฤต หรือไม่วิกฤต แต่ถ้ายังไม่มีอะไรที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจให้แรงขึ้น หรือจะสามารถทำหลายๆ อย่าง ให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ก็เกรงว่าวิกฤตเศรษฐกิจ ข้างหน้าจะกลับมา วันนี้อยากเรียกร้องทุกฝ่ายไม่ว่ารัฐบาล หรือฝ่ายค้านต้องจับมือกัน อย่าใช้การเมืองเข้ามาทำให้ประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าการกลับมาของนายพิธา จะทำให้การตรวจสอบรัฐบาลเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การตรวจสอบรัฐบาลคงทำหน้าที่ไปเหมือนเดิม เรามีสส. เพิ่มเข้ามาอีก 1 คน หวังว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้น ถ้าฝ่ายค้านในการเมืองแบบใหม่จริง ช่วยกันทำงานให้กับรัฐบาลให้เข้มแข็ง ก็จะแก้วิกฤตของประเทศได้ แต่ถ้ายังยึดประโยชน์ของตน และความต้องการของพรรคตนเอง ประเทศก็จะเป็นอุปสรรค และการแก้ไขปัญหาของประชาชนเชื่องช้าลง

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลหลายอย่าง เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต นายภูมิธรรม กล่าวว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านคือการตรวจสอบ คำว่าตรวจสอบ คือการเสนอแนะ หรือสะท้อนในสิ่งที่ตนเองเห็น ไม่จำเป็นต้องค้านทุกเรื่องที่รัฐบาลทำ

ก่อนหน้าเคยคุยกับพรรคก้าวไกล ในช่วงจัดตั้งรัฐบาลว่าถ้าอยากทำการเมืองใหม่ หรือเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือแก้ไขปัญหาวิกฤตต่างๆ ต้องร่วมมือกันทำ หากอันไหนมีข้อจำกัด ก็ต้องเสนอแนะมา ซึ่งการทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่ดี ไม่จำเป็นต้องถามทุกเรื่อง

เมื่อถามว่าฝ่ายสนับสนุนพรรคก้าวไกลค่อนข้างเยอะ หากมองไปในอนาคต การเลือกตั้งครั้งหน้าจะน่าเป็นห่วงหรือไม่สำหรับพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกพรรค มีผู้สนับสนุนที่มีมาจากหลากหลายอาชีพ อย่าพึ่งบอกว่ามีการสนับสนุนเป็นจำนวนมาก มันพูดยาก แต่ผลเลือกตั้งต่างหากที่จะชี้วัดว่าคนส่วนใหญ่สนับสนุน หรือไม่สนับสนุน ยืนยันว่าไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว เพราะทุกคนทำหน้าที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน