กมธ.งบฯ ห่วงทุจริตในสหกรณ์-แปลงส.ป.ก.เป็นโฉนด จี้หน่วยงานเร่งแก้ไขโดยเร็ว

อนุสรณ์ ชี้ กมธ.งบฯ ห่วงปัญหาทุจริตในสหกรณ์-การบริหารจัดการน้ำ-ที่ดินส.ป.ก.-เผาพืชไร่ หวังหน่วยงานแก้ไขโดยเร็ว คาดตั้งอนุกมธ.สัปดาห์หน้าตามรายกระทรวง

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 แถลงผลการประชุมว่า เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) พิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายอนุสรณ์กล่าวว่า กมธ.หลายท่าน ได้ให้ข้อเสนอแนะในหลายประเด็น อาทิ ปัญหาทุจริตในสหกรณ์หลายแห่ง ที่ส่งผลต่อสมาชิกสหกรณ์จำนวนมาก ซึ่งสหกรณ์บางแห่งมีปัญหาเรื้อรังมานาน แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าช่วยเหลือโดยเร็ว

สำหรับหน่วยงานด้านชลประทาน กมธ.ส่วนใหญ่ได้เสนอแนะและให้ข้อสังเกตถึงการดำเนินงานด้านการทำแผนการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ หรือการทำฝายหรือเขื่อนในพื้นที่เป็นต้นน้ำ เนื่องจากแหล่งต้นในหลายพื้นที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา

หน่วยงานจึงควรพิจารณางบประมาณสนับสนุนการพัฒนาคลองส่งน้ำในสายต่างๆ เนื่องจากในอดีตคูคลองถูกใช้ในช่วงฤดูฝนเป็นหลัก แต่ปัจจุบันฝนน้อยลง จึงเสนอให้เพิ่มจำนวนคลองส่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรให้ทั่วถึง รวมถึงหน่วยงานจะมีแนวทางเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังมาถึงอย่างไร

สำหรับประเด็นที่กระทบต่อเกษตรกร คือเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. โดยมีกมธ.บางท่านได้เสนอตั้งงบประมาณสำหรับการสำรวจการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อทำการเกษตรและวิธีตรวจสอบที่ดินที่ดำเนินการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรและประเด็นการปรับปรุงแนวเขตปฏิรูปที่ดิน ปัจจุบันเมื่อประกาศปฏิรูปที่ดินแล้ว แต่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินได้ จึงขอให้หน่วยเร่งรัดแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นอกจากนี้ยังหารือปัญหาการเผาพืชไร่หน่วยในกระทรวงเกษตรฯ ที่เกี่ยวข้อง ควรเข้าไปทำหน้าที่กำกับและตรวจสอบเกษตรกรไม่ให้เผาพืชไร่ เพื่อลดและป้องกัน PM 2.5

นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า สำหรับผลของการประชุมของกมธ.ที่ผ่านมาทั้งสิ้นใช้เวลา 10 วัน หน่วยงานที่ผ่านการพิจารณางบกลาง 11 รายการ 171 หน่วยงาน 12 กองทุน คิดเป็น 24.18 เปอร์เซ็นต์

เมื่อถามว่าจะตั้งอนุกมธ.เมื่อไหร่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า คาดว่าเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งการพิจารณางบประมาณครั้งที่แล้ว เป็นการตั้งตามภารกิจ แต่รอบนี้อาจจะพิจารณารายกระทรวง ส่วนความชัดเจนต้องรออีกครั้งหนึ่ง เพราะระยะเวลาที่กระชั้นชิด เราจะทำอย่างไรให้มีการพิจารณางบให้ครบถ้วน รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ