จากกรณีตรวจค้นและจับกุมตัว นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินหรือนักเคลื่อนไหวชื่อดัง พร้อมด้วยนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ หลังร่วมกันข่มขู่เรียกเงินนายณัฏฐกิตติ์ อธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ปรึกษากฎหมาย ของนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้มอบคลิปเสียง และแชทสนทนา ของกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้ติดต่อกับ อธิบดีกรมข้าว ให้กับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งพบว่า คลิปเสียงเป็นการสนทนาเรื่องการข่มขู่
ทั้งนี้พบว่า นายศรีสุวรรณ และ นายยศวริศ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่สภาฯ วันที่ 20 ธ.ค. เรื่องกรมการฝนหลวง ให้ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และได้ทิ้งท้ายว่า กำลังมีการทุจริตใน กรมการข้าว จากนั้น พบว่า
นายศรีสุวรรณ จรรยา และ เจ๋ง ดอกจิก แถลงเรื่องอธิบดีกรมฝนหลวง วันที่ 20 ธ.ค.66
ค่ำวันเดียวกัน นาย จ. ได้พยายามติดต่ออธิบดีแต่ติดต่อไม่ได้ จน เช้าวันที่ 21 ธ.ค.ได้ติดต่อมาบอกว่า ขอกินกาแฟด้วย และพบว่า ช่วงเที่ยง นาย จ. ได้เดินทางมาที่กรมการข้าว ซึ่งที่ปรึกษากฎหมายอธิบดีกรมข้าว ได้มีหลักฐานวงจรปิดขณะที่เดินทางมากับเลขาด้วย
โดยคลิปเสียง นาย จ.มีการคุยกับ นางธัญญรัตน์ อายุ 49 ปี ภรรยาของนายณัฏฐกิตติ์ โน้มน้าวให้จ่ายเงิน ซึ่งอ้างว่า ตนเองจะเคลียร์ให้ได้ ไม่ต้องมาสอบในชั้น กรรมาธิการได้
ข้อความเสียงระบุว่า “ยอมจ่าย ๆ ไปจะดีกว่า จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จไม่ใช่สาระสำคัญ กว่าจะตรวจสอบพิสูจน์ความจริงได้ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ถึงตอนนั้นก็กลายเป็นข่าวเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ เสื่อมเสียชื่อเสียงไปแล้ว มันไม่คุ้มหรอก คุณนายยอมจ่าย ๆ ไปเถอะทุกอย่างจะได้จบ อย่างน้อยก็ถือว่าเอาไว้เป็นพวกกัน”
Advertisement
แชทหลักฐาน การขู่เอาเงิน อธิบดีกรมข้าว
นอกจากนี้ ระหว่างที่คุยกับ ภรรยาอธิบดีกรมข้าว ยังมีการพูดพาดพิงถึง อธิบดีกรมฝนหลวง ว่า ” เรื่องใหญ่อยู่ที่ ศ.ศาลา คนที่จะเป็นข่าว คนที่จะเหนื่อยมากต่อไปและจะติดคุกด้วยคือ อธิบดีกรมฝนหลวง” ทั้งนี้ เสียงในสายอ้างว่า อธิบดีกรมฝนหลวง ได้ล็อกทีโออาร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีการเปิดคลิปเสียงอีกหลายสาย ซึ่งเสียงในสายพยายาม ยกตัวอย่างเรื่องอธิบดีกรมฝนหลวง ว่าจะต้องโดนคุก และไม่อยากให้เรื่องบานปลาย พยายามให้จ่าย นาย ศ. จะได้จบๆ เพราะมีการนัดนักข่าวแล้ว มันปิดไม่อยู่ พร้อมต่อว่า ว่า คุณนายลีลา และระบุว่า “เอาเรื่องอย่างว่า ไปไว้ที่ ศ.ศาลา ซะก็จบแล้ว ผมเคลียร์มาหลายคนแล้ว”
ด้านนางธัญญรัตน์ อายุ 49 ปี ภรรยาของนายณัฏฐกิตติ์ เปิดเผยเรื่องนี้ว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดเรื่องขึ้น รู้สึกเป็นทุกข์ และเครียดมาโดยตลอด ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้
จนกระทั่งคิดได้ว่าเมื่อเราไม่ผิดทำไมไม่ลุกขึ้นมาสู้ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง หรือสู้ให้คนอื่นรู้ว่าความจริงยังมีอยู่ อีกทั้งหากปล่อยให้มีคนแบบนี้อยู่ในสังคมต่อไป แล้วประเทศชาติจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร จึงทำให้ตนมีพลังตัดสินใจลุกขึ้นมาต่อสู้จนนำมาสู่ความจริงที่ปรากฎในวันนี้
