เศรษฐา ไม่เห็นด้วยกับมติ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5 แต่ไม่สิทธิ์ไปก้าวก่าย พร้อมยอมรับความเห็นต่าง บอกประชาชนเลือกมาแล้วต้องบริหารจัดการให้ได้ ลั่นไม่รู้สึกว่าถูกบีบ

เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 7 ก.พ.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี ว่า ก็ต้องน้อมรับ

อ่านข่าวที่นี่ : กนง.มีมติ 5 ต่อ 2 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50 % ต่อปี ชี้เหมาะสมแล้ว

เป็นหน้าที่ของ กนง. เราไม่มีสิทธิ์ หน้าที่ของตนคือเขาเขียนว่าฝ่ายรัฐบาลจะต้องทำอะไรบ้าง ความเดือดร้อนของประชาชนอยู่ตรงไหน แต่เมื่อผลโหวตออกมาแบบนั้น รัฐบาลไปก้าวก่ายไม่ได้

“ถ้าถามว่าเห็นด้วยไหม ก็ต้องบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายอยู่แล้ว กนง.มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายทางการเงิน อย่างที่ผมเรียนไปว่า เราอยากเห็นนโยบายการเงินการคลังไปด้วยกัน และตอนนี้ก็เงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนแล้ว” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะฝ่าวิกฤตความเห็นต่างไปได้ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญในสังคมไทย เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีประชาชนให้การสนับสนุน แต่ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สังคมต้องยอมรับได้ และความเห็นต่าง เราจำเป็นต้องบริหารความคาดหวัง ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และภายใต้กรอบที่ไม่ก้าวร้าวกันและกัน ต้องบริหารจัดการกันไป

เมื่อถามว่าเป็นการบีบให้ถอยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น เป็นหน้าที่ที่ต้องบริหารจัดการเรื่องนี้แล้ว”

เมื่อถามว่าแม้มติครั้งนี้ กนง.ยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังคาดหวังว่าครั้งหน้าจะลดลงใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูตัวเลขไปเรื่อยๆ ตนไม่ได้มีธงว่าต้องลดอะไร แต่ตัวเลขก็ออกมาตลอดเวลา ถ้าตัวเลขบ่งชี้ว่าไม่ต้องลด ตนก็จะออกมาบอกว่าเห็นต่าง หรือเห็นด้วย หรือเห็นสมควร หรือต้องมีการโน้มน้าว หรือต้องมีการพูดคุย ก็ต้องทำต่อไป








Advertisement

เมื่อถามว่ามีความเห็นต่างระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ จะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการนโยบายต่อไปหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด ปัญหาความปลอดภัยทางสังคม หรือปัญหาฝุ่นละออง PM2.5

เมื่อเราอยู่ตรงนี้เราถูกเลือกเข้ามาแล้ว เป็นตัวแทนของประชาชนถูกเลือกมาให้ดูแลปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งปัญหาก็มีความยากง่ายแตกต่างกันไป ก็ต้องพยายามต่อไป ไม่ได้เสียกำลังใจหรือท้อถอย เพราะเรามายืนตรงนี้แล้ว ความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้องดูแล เมื่อมีความเห็นต่างก็ต้องพูดคุยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์ของนายกฯ มีขึ้นภายหลังการประชุมคณะกรรมการระดับระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569 ซึ่งเดิมมีชื่อนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และประธาน กนง. เป็นผู้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่นายเศรษฐพุฒิ ได้ส่งตัวแทนเข้าประชุมแทน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน