ศิริกัญญา ชี้ความเห็น ป.ป.ช. ปมดิจิทัลวอลเล็ต ทำทุกอย่างดีเลย์โดยเปล่าประโยชน์ บอกรัฐบาลไม่จำเป็นต้องทำตาม แต่ควรหาข้อมูลมาหักล้างเรื่องความไม่คุ้มค่า

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีข้อเสนอแนะเรื่องการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ว่า หลายเรื่องที่ ป.ป.ช.มีความเห็นมาในครั้งนี้ ไม่ได้แตกต่างจากความเห็นที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้

แม้ครั้งนี้จะมีแหล่งข่าวระบุว่า ป.ป.ช.พยายามปรับให้โทนความเห็นเบาลง แต่ความจริงก็เหมือนเดิมทุกประการ หลายเรื่องเป็นสิ่งที่รัฐบาลทราบอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจอาจจะไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต แต่อยู่ในภาวะกำลังฟื้นตัวเข้าสู่จุดสมดุล หรือการที่หาเสียงไว้แบบหนึ่ง แต่กำลังจะทำอีกแบบ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ดังนั้น ยังคงยืนยันว่าคำแนะนำของ ป.ป.ช. ก็เป็นเพียงอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ตามกฎหมาย มาตรา 32 แต่รัฐบาลไม่จำเป็นต้องทำตามที่ ป.ป.ช.เสนอแนะ แน่นอนว่ามีส่วนที่เราเห็นด้วยในบางข้อ

แต่ในหลายข้อ เราคิดว่าน่าจะเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ในการแนะนำ เช่น การให้จำกัดคนที่จะได้รับประโยชน์ ให้เป็นเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือรายได้น้อยเท่านั้น ซึ่งต้องมาดูว่าวัตถุประสงค์ของแต่ละ โครงการที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งอาจไม่ได้เจาะจงเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

“การที่ ป.ป.ช.ทำรายงานฉบับนี้ออกมา ทำให้ทุกอย่างต้องดีเลย์ออกไป ค่อนข้างเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ความจริงรัฐบาลควรเดินหน้าปรึกษาหารือ และนัดประชุมกับคณะกรรมการนโยบายชุดใหญ่ เพื่อสรุปว่าโครงการนี้จะเดินหน้าในวิธีใดมากกว่า” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

เมื่อถามว่าหากรัฐบาลเดินหน้าโครงการต่อ เรื่องนี้จะจบที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า รัฐบาลทราบมาตลอดว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงิน มีความเสี่ยงทางกฎหมาย โดยเฉพาะ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และยังไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลว่าจะแก้ปมนี้อย่างไร อีกทั้งรายงานของ ป.ป.ช.ยังมีถ้อยคำที่เขียนเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะ จึงอาจทำให้คนไปร้องเรียน ต่อป.ป.ช. ได้ง่ายดายขึ้น

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ในหลายช่วงหลายตอนรายงานของ ป.ป.ช. พูดถึงความคุ้มค่าของโครงการ และตัวคูณทางการคลัง ตนจึงมั่นใจว่าหากรัฐบาลทำการศึกษาขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อหักล้างข้อมูลของ ป.ป.ช.ก็สามารถทำได้ แต่รอจนถึงวันนี้ ยังไม่มีผลการศึกษาดังกล่าวจากรัฐบาล มายืนยันความคุ้มค่าของโครงการเลย








Advertisement

ย้ำว่า หนทางที่จะใช้งบประมาณปี 2568 เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลความเสี่ยงทางด้านกฎหมาย แต่ก็จะทำให้โครงการล่าช้าออกไปอีก หลังเดือน ก.ย. 2567 คือเริ่มจากเดือนต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าโครงการจะเริ่มเมื่อไหร่ เพราะกำหนดการเดิมที่เป็นเดือนพ.ค.ก็เลื่อนไปแล้วอย่างไม่มีกำหนด และยังอีกข้อจำกัดอีก คือ แม้จะใช้งบปี 2568 ก็ยังไม่มีงบปที่เพียงพอสำหรับโครงการ 5 แสนล้านบาท

ดังนั้น การลดกลุ่มเป้าหมายลงมาจึงเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง แต่อีกปมที่ยังไม่ได้แก้ คือ เรื่องความคุ้มค่าของโครงการ

เมื่อถามว่าถือว่าช้าเกินไปหรือไม่ที่รัฐบาลจะหันกลับมาทบทวนโครงการนี้ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่ช้า เราไม่เคยปฏิเสธว่าเศรษฐกิจไทยมีปัญหา เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เข้าสู่ช่วงวิกฤตเต็มตัว ยังคงจำเป็นต้องมีมาตรการต่างๆ ออกมาได้แล้วในวันนี้ โดยไม่ต้องรอถึงเดือนพ.ค. หรือต.ค. ถ้ามีการทบทวนในระหว่างทางว่า ควรต้องมีโครงการอื่นๆ ออกมาในระหว่างนี้ก่อน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็ต้องรอให้มีเงินมากเพียงพอ แล้วค่อยทำ ก็ยังเป็นไปได้เช่นกัน

“ก็ไม่รู้จะโทษใครดี ที่ต้องการทำโครงการขนาดมหึมาแบบนี้ แต่ไม่ได้เตรียมเรื่องเงินที่วางไว้ จึงมีปัญหา ต้องแก้ไปทีละเปลาะแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตอนนี้คิดว่าควรมีแอคชั่น อะไรที่ทำได้เลย อาจจะเล็กลงมา ใช้งบกลางที่มีอยู่ก่อนแล้วไปพลางก่อน น่าจะทำให้ช่วยเหลือประชาชนได้ภายในระยะเวลานี้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน