‘พิชิต’ ชี้อย่าเข้าใจมียาบ้า 5 เม็ด ถือเป็นผู้เสพเสียทุกราย กฎหมายมีผลให้การพิสูจน์เป็นภาระเจ้าหน้าที่ ต้องนำพยานหลักฐานสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้น

วันที่ 14 ก.พ.67 พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี โพสต์ในเพจ Dr.Pichit Chuenban ถึงประเด็นยาบ้าระบุว่า ขอแจงข้อกฎหมายกรณีการมียาบ้า 5 เม็ด ถือเป็นผู้เสพหรือผู้ค้า ดังนี้

ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 เป็นกฎหมายให้สิทธิและคุ้มครองสิทธิผู้กระทำความผิดโดยคัดกรองผู้กระทำผิดว่าเป็น ผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ค้ารายย่อย หรือผู้ติดยาเสพติด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องพิสูจน์การกระทำผิดต่างๆ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น อัยการก็ต้องใช้ดุลพินิจในการเลือกฟ้องคดีให้ถูกต้องสมเหตุสมผลกับพฤติการณ์ และศาลก็สามารถใช้ดุลพินิจในการพิจารณาพิพากษาคดีตามพยานและหลักฐาน ในภาพรวมคือทำให้ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นในการพิจารณาการกระทำความผิดของผู้ต้องหา

ประเด็นมียาบ้าไว้ในครอบครองจำนวนไม่เกิน 5 เม็ด เพื่อเสพ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 และประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 107 ห้ามผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อเสพ การมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งไม่เกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดในกฎกระทรวง (ไม่เกิน 5 เม็ด) ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ

มาตรา 164 ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อเสพ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 107 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งตามมาตรา 107 วรรคสอง เป็นการ “ครอบครองเพื่อเสพโดยบทสันนิษฐานของกฎหมาย” (การครอบครองยาเสพติดไม่เกินจำนวน 5 เม็ด ที่กำหนดในกฎกระทรวงสาธารณสุข) เป็นข้อสันนิษฐานไม่เด็ดขาด อย่าเข้าใจว่ามียาบ้า 5 เม็ดแล้วจะถือว่าเป็นผู้เสพเสียทุกรายนั้นไม่ถูกต้อง กฎหมายมีผลเพียงเป็นการผลักภาระการพิสูจน์ไปให้เจ้าหน้าที่ที่จะต้องนำพยานหลักฐานสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนั้น

อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมผู้ต้องหาที่มียาบ้าไว้ในครอบครอง ไม่เกิน 5 เม็ด ผู้ต้องหาได้ประโยชน์จากข้อสันนิษฐานว่า มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยบทสันนิษฐานของกฎหมาย

แต่เมื่อข้อสันนิษฐานดังกล่าวเป็นข้อสันนิษฐานไม่เด็ดขาด หากเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานหักล้างได้ว่า ผู้ต้องหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อการค้า ผู้ต้องหาย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐาน แต่ต้องรับผิดฐานเป็นผู้ค้าซึ่งต้องรับโทษหนักขึ้น ไม่ใช่ผู้เสพ

 








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน