นายกฯ รุดดูสภาพปัญหาฝุ่นละออง จี้ทส.เร่งทำงานบูรณาการแก้ที่ต้นเหตุ อย่าหวังพึ่งฟ้าฝน ปัญหาวันนี้ต้องแก้วันนี้ เชื่อปัญหา PM 2.5 มาจากไอเสียรถยนต์ ยกเชียงใหม่ โมเดลจังหวัดอื่นทำตาม

เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ 15 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางมายัง กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลรายงานคุณภาพอากาศประเทศ เพื่อติดตามปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5

เนื่องจากวันนี้หลายพื้นที่สถานการณ์ฝุ่นเป็นสีแดงซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และกรุงเทพมหานครได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนเวิร์คฟรอมโฮม เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทส. รายงานสถานการณ์ เนื่องจากพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทส. อยู่ระหว่างการตอบกระทู้สดที่สภาผู้แทนราษฎร

นายกฯ ได้ตรวจดูสถานการณ์ภาพรวมทั่วประเทศจาก heat map หรือแผนภาพความร้อน และรับฟังรายงานจากเจ้าหน้าที่ ก่อนกล่าวว่า ภาพรวมทั่วประเทศถือว่าดี แต่อยากให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นบูรณาการทำงานร่วมกัน

ตนลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่หลายครั้งต้องชื่นชม อยากให้เชียงใหม่เป็นโมเดลให้กับพื้นที่อื่นๆ ซึ่งนอกจากปัญหาในประเทศแล้ว ยังมีปัญหาจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งปัจจุบันในส่วนของกัมพูชาสถานการณ์ดีขึ้น เนื่องจากหมดฤดูกาลเผา แต่ยังต้องเฝ้าระวังเพราะยังทำการเกษตรต่อ แต่ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือจากฝั่งลาวและเมียนมา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานความร่วมมืออยู่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รายงานว่าสถานการณ์จุดความร้อนขณะนี้ที่จ.กาญจนบุรี ถือว่าน่าเป็นห่วง ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ส่วนหนึ่งมาจากทิศทางลมที่พัดเข้ามาในประเทศไทย แต่อีก 2-3 วัน ทิศทางลมจะเปลี่ยนไป

นายกฯ จึงระบุว่า เราจะหวังพึ่งฟ้าฝนเพียงอย่างเดียวไม่ได้ หากบริหารจัดการส่วนไหนได้ควรเร่งทำก่อน อย่าให้ประชาชนฝากผีฝากไข้ไว้กับลมฟ้าอากาศ ทำได้ตรงไหนต้องทำไปก่อนเพราะสถานการณ์วันนี้ไม่ดี

นายกฯ ยังสั่งการด้วยว่า วันนี้ตัวเลขต่างๆ ออกมาเขียนได้ชัดเจน ตนอยากให้รวบรวมข้อมูล ว่าหากเกิดอะไรขึ้นกระทรวงการต่างประเทศจะต้องติดต่อกับใคร เช่น เมียนมา กัมพูชา ลาว จะต้องติดต่อใคร เช่น เหตุการณ์วันนี้ที่กาญจนบุรี ผบ.มณฑลทหารบกที่ 9 ควรติดต่อใครเพราะท่านทราบอยู่แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญขึ้นมาและให้ความมั่นใจว่าหากเกิดปัญหาอะไรขึ้น ขอให้บอกจะสั่งการให้








Advertisement

วันนี้ตนจะสั่งการไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สั่งการไปยังผู้ว่าฯทั่วประเทศ ให้ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน ส่วนระยะยาวจะต้องเร่งดำเนินการให้องค์ความรู้กับเกษตรกร หรือในพื้นที่กทม. ปัญหาหนึ่งในสามเกิดจากปัญหาควันจากรถยนต์ ขณะนี้การแก้ปัญหาระยะสั้น กทม. ให้เวิร์คฟอร์มโฮม ส่วนระยะยาวอาจจะต้องมีการย้ายสถานที่ โดยเฉพาะที่ที่มีการปล่อยอากาศเสียออกมา

จากนั้นนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาดูปัญหาฝุ่น PM 2.5 เราเห็นแล้วว่าจุดฮอตสปอตจุดความร้อนมาจากจ.กาญจนบุรีค่อนข้างเยอะ โดยวันนี้เวลา 13.30 น. ตนนัดประชุมร่วมกับรมว.มหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงทส. ผบ.ทบ. เพื่อพูดคุยกันว่าเราจะทำอย่างไร

ดูจากแผนภูมิแล้ว ในช่วงนี้เชียงใหม่จะต้องมี PM 2.5 สูงมาก แต่วันนี้กลับเป็นสีเหลือง ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ตนลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ 3 ครั้งแล้ว และพล.ต.อ.พัชรวาท บริหารจัดการเรื่องนี้ได้อย่างดีมาก ทำให้ผลออกมาดูดี เราอยากจะทำจ.เชียงใหม่โมเดลไปในทุกจังหวัด ซึ่งในระยะสั้น กระทรวง ทส.และกรุงเทพมหานคร มีการประกาศให้เวิร์คฟรอมโฮม บางส่วน

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องระยะสั้นจะมีการลงพื้นที่ให้ผู้ว่าฯ ประสานฝ่ายความมั่นคง ให้ทำเรื่องนี้ให้ดี ซึ่งกระทรวงทส. ก็มีข้อมูลที่ดีและถ้าตรงไหนมีจุดฮอตสปอต ก็ต้องมีการสั่งการที่ชัดเจน ว่าขั้นตอนต่อไปเป็นอย่างไรและมีฮอตไลน์ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา เพราะตรงนั้นมีตัวเลขการเผาเยอะมาก

“ฉะนั้นทุกฝ่าย ต้องพูดคุยกันให้ได้ ไม่ใช่บอกว่า อีก 3 วันทิศทางลมจะดีขึ้น แล้วเราจะดีขึ้น เราไม่ได้พูดถึงอีก 3 วันเราพูดถึงวันนี้ ถ้าวันนี้ตอนเช้าไม่ดี เราก็ต้องบอก เพราะเราต้องอยู่กับมัน ฉะนั้น ต้องแก้ไขกันไปจะมาคอยไปอีก 3-4 วัน ค่อยให้ทิศทางมันดีขึ้น และหวังว่าลมฟ้าอากาศจะมาช่วยมันไม่ใช่วิธีบริหารจัดการปัญหาที่ถูกต้อง” นายกฯ กล่าว

วันนี้มากระทรวงทส. ครั้งแรก เพราะทราบว่าเป็นเรื่องสำคัญและเรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องในระยะยาวต้องมาพูดคุยกันว่า เรื่องการจำกัดรถยนต์ที่มีไอเสีย หรือรถที่มีเครื่องยนต์ดีเซลจะทำอย่างไร มาตรการสนับสนุน เรื่องการเปลี่ยนให้ไปใช้รถอีวี ก็สำคัญ และวันนี้กรุงเทพฯมีจุดความร้อนเยอะมากและเราก็ทราบดีว่าสาเหตุเกิดจากควันพิษของรถยนต์ ตรงนี้จะต้องพูดคุยกันในระยะยาว ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เคยพูดถึงการย้ายคลองเตยออกไป ก็อาจต้องพูดคุยกันในการแก้ปัญหาระยะยาว

เมื่อถามว่าปัญหาระยะสั้นของ กทม. ที่เป็นปัญหาหนักในขณะนี้ จะทำอย่างไรได้บ้าง นายกฯ กล่าวว่า ผู้ว่า กทม.มีอำนาจให้เวิร์คฟรอมโฮม ซึ่งตนก็สนับสนุน เพราะมีอำนาจ บริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการหยุดหรือรับงานก่อสร้างก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ตนเชื่อว่า 25% มาจากไอเสียรถยนต์ เราคอนโทรลตรงนี้ได้ ความจริง เราควรดูที่ต้นเหตุมากกว่า คือการเผาวัชพืชในจังหวัดต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางลม

เมื่อถามว่าจะเชิญชวนประชาชนมาใช้รถยนต์สาธารณะ มากขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เป็นข้อคิดที่ดี คงจะมีการเชิญชวน

เมื่อถามย้ำว่าจะลดค่าเดินทางของรถโดยสารสาธารณะเพื่อเป็นแรงจูงใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงจะมีการพูดคุยกับผู้ให้บริการ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพื่อให้ทุกท่านเดินทางได้อย่างสะดวก ในราคาที่เข้าถึงได้

เมื่อถามว่าโมเดลจังหวัดเชียงใหม่จะ ถูกนำไปใช้ในพื้นที่อื่นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าได้แน่นอน ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ประสานงานกับกระทรวงทส. และฝ่ายความมั่นคง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกคนมีการพูดคุยที่ดีตลอดเวลา

มันไม่ได้เริ่มตั้งแต่ห้ามเผา แต่มันเริ่มตั้งแต่เก็บเศษใบไม้และให้องค์ความรู้กับเกษตรกร โดยฝ่ายความมั่นคงได้จัดยุทโธปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้มาขนส่งเศษวัชพืชไปโรงงานไบโอดีเซล เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป ซึ่งจ.เชียงใหม่ทำได้ดี โดยหลายจังหวัดพยายามทำอยู่ ซึ่งตนจะพูดคุยกันอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน